ความคิดเห็นที่ 1 มันอยู่กับลักษณะงานที่ Support นะครับว่าเป็นอย่างไร ความสำคัญของปัญหาเป็นอย่างไรครับเพราะการที่จะทำการเขียน SLA นั้นจะต้องทำโดยเป็นที่ตกลงระหว่างผู้ว่าจ้างกับทางบริษัทที่ทำการ Support ด้วยครับ เพราะต้องเป็นการตกลงกันทั้งสองฝ่ายครับ (ไม่ได้เป็น Service Manager นะครับแต่ทำงานด้านนี้อยู่) จากคุณ : หมูน้อย (dOWNsYNDOME) - [ 8 ส.ค. 47 23:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในกรณีที่จะจ้างงานในลักษณะ Outsource จะต้องมีการกำหนด Service Level Agreement เพื่อเป็นข้อตกลงในเรื่องของภาระงาน หน้าที่รับผิดชอบครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าระบบมีปัญหา ต้องแก้ไขให้ได้ภายในเวลาเท่าไหร่ ถ้าแก้ไขไม่ได้ จะต้องโดนปรับเป็นอัตราเท่าไหร่ ถ้าไม่มีกำหนดส่วนนี้ไว้แต่แรกแล้วจะเป็นปัญหาต่อเนื่องตามมาเพราะเกิดการเกี่ยงกัน ปัดกัน ในกรณีที่มีปัญหาขึ้นมาจริงๆ จากคุณ : JMU - [ 9 ส.ค. 47 11:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใครพอมีตัวอย่างสัญญา ไหมครับ และ หลักการคิด ว่า เราจะขาย คิดอย่างไร ครับ จากคุณ : formulax (formulax) - [ 9 ส.ค. 47 17:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 SLA = Service Level Agreement ส่วนมากสินค้า software กับ hardware จะมี การคิดพวก MA ในราคาที่ต่างกัน ผมพอจะประมาณตัวเลขคร่าวๆ ให้ละกันนะครับ software จะคิดประมาณ 20% hardwae จะคิดประมาณ 10% ต้องลองถามคุณ MESMERIC ดูอีกที วิธีการขายก็คือ จะขายไปพร้อมกับ HW และก็ SW ที่เราขายให้ลูกค้าอ่ะครับ ส่วนวิธีการรักษาลูกค้า ก็ตอบแบบลูกทุ่ง เลยว่าเวลาลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ หรือขอคำปรึกษา เราก็ต้อง support ให้ดีมากกก ๆๆๆ รับรองลูกค้าไม่หนีไปไหน หลัก ๆ ใน SLA ก็น่าจะพูดถึง ช่วงเวลาในการ support 8*5 หรือ 24*7 หรือว่า on site in 4 hours หรือว่า next business day แล้วก็เราจะทำอะไรให้ลูกค้าบ้าง, ส่วนไหน ลูกค้าต้องเตรียมอุปกรณ์หรือว่า environment ให้เรา, ขอบเขตของการ support ของเราอยู่แค่ไหน อะไรทำนองนี้อ่ะครับ... จากคุณ : สะเต๊ะ - [ 9 ส.ค. 47 23:35:58 ]