ความคิดเห็นที่ 1 แหะ แหะ รู้จักแต่วงกระท้อนน่ะครับ อายุ 15 ได้มาเป็นสาวรำวง นั่งตีคิ้วโก่งรอบัตรโค้งจากชาย แหะ แหะ เด๋วรอน้องว่านมาตอบแล้วกันนะครับ จากคุณ : แว๊บบบ (กลัวที่หนาย) - [ 3 ก.ย. 46 13:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาตอบให้คร่าวๆ ก่อนแล้วกันค่ะ.. กะท้อน ชื่อสามัญ Santol ชื่อวิทยาศาสตร์ Sandoricum indicum, Cav. เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลแก่มีสีน้ำตาลอ่อน เปลือกหนาห่อหุ้มเมล็ด ซึ่งมีเนื้อสีขาวฟู เป็นปุยรสหวาน สรรพคุณทางยา ลดอาการเจ็บคอ - แก้กระหายน้ำได้ดี จาก บทความเรื่อง ผลไม้คลายร้อน ตอนที่ 1 ของ คุณดวงจันทร์ เฮงสวัสดิ์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มก. http://www.ku.ac.th/e-magazine/march46/agri/fruit.html ส่วนแคลอรี่.. นั้นไม่น่าจะเกิน 150 แคลอรี่ต่อ 100 กรัม เพราะผลไม้ไทยส่วนใหญ่ (ยกเว้นทุเรียน) มีค่าแคลอรี่ต่ำมากค่ะ ^^ จากคุณ : ^SoFaNaNon^ - [ 3 ก.ย. 46 18:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เบื่อกระท้อนจิงจิงเลย เพราะวันก่อนโดนคุณหญิงยาย ฝากให้ไปซื้อก่อนกลับบ้าน ดันลืมเลยโดน ไม้ตะพด เคาะกะโหลกเลย..แหะแหะ จากคุณ : พริ้วไหวเหมือนสายลม - [ 3 ก.ย. 46 19:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบกินเหมือนกันค่ะ กินหมด กะท้อนห่อ ไม่ห่อ ไม่ห่อก็เอามาทำลอยแก้วอร่อยที่ซู๊ด แต่เคยดูทีวี มีหมอท่านนึงให้ความรู้ว่า เมล็ดของกะท้อนไม่ควรกินนะ เพราะเห็นว่ามีปุยๆ ขาวๆ พอกินแล้วลื่นๆ น่ะ พอหมดปุยแล้ว เมล็ดของกะท้อนจะเป็นเหมือนหนามแหลมๆ แล้วก็เจ้าหนามแหลม ของมันน่ะ กว่าน้ำย่อยจะย่อยได้ มันก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้กระเพาะ หรือลำไส้เรา ไม่ดีได้อ่ะค่ะ จริงๆ เท็จยังไงไม่รู้ แต่ก็ฟังไว้ไม่เสียหลายค่ะ นี่ว่าว่างๆ จะลองเอาเมล็ดกะท้อนมาแช่นน้ำนานๆ ดู อยากรู้ว่า มันจะเป็นอย่างนั้นจริงป่าว เพราะว่าชอบเม็ดมันง่ะ อม อม แล้วกลืนดึ๊บเยย อาหย่อย เหะ เหะ จากคุณ : ไมย่าแม่ลูกโม่ (Chaowanuj) - [ 3 ก.ย. 46 21:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณหมอค่ะ.. ว่าอย่ากลืนเม็ดกะท้อนเข้าไปเลย นอกจากมันจะย่อยไม่ได้แล้ว ยังอาจจะทำให้ติดคอได้ด้วยนะคะ อย่ากลืนเลยค่ะ ^^'' จากคุณ : ^SoFaNaNon^ - [ 4 ก.ย. 46 00:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ห้ามใจม่ายด้าย.... บางทีเพลิน ๆ ก็กลืนเม็ดไปเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดแบน ๆ เล็ก ๆ ต่อไปต้องระวังให้ดีกว่านี้นะ ที่บ้านปลูกไว้สองต้น ยังต้องไปซื้อเค้ามากินเลย เอื๊อก..พูดแล้วอยากอีกง่ะ จากคุณ : บุษบก - [ 4 ก.ย. 46 14:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ๋าย...เม็ดกระท้อนกินได้ด้วยเหรอ ตอนนี้กะลังรับอานิสงฆ์จากกระท้อนอยู่ค่ะ รอบเอวขยายเอ๊าขยายเอา ประมาณว่ากินกระท้อนลอยแก้วต่างข้าว คิดเป็นน้ำตาลทรายประมาณสามกิโลได้ จากคุณ : jj - [ 5 ก.ย. 46 19:47:16 A:210.1.15.205 X:127.0.0.1 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อึ๊.. พลาดกระทู้นี้ไปได้ไงเนี้ยะ >_< . ขอชดใช้ด้วยชีวิต.. เอ้ย อันตรายของกระท้อน + ลำไส้ทะลุละกันค่ะ ( ต่อไปก็คงต้องเลิกกลืนเมล็ดกระท้อนเหมือนกันค่ะ แง้ >_< ) . น.พ.นพวัชร์ สมานคติวัฒน์ ศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี กล่าวว่า "เมื่อเร็วๆ นี้มีคนไข้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงมารักษา ที่โรงพยาบาล ซักประวัติได้ความว่า กลืนเม็ดกระท้อนลงไป ตอนกลืนก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไร แต่วันรุ่งขึ้นมีอาการปวดท้อง และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีไข้สูง หน้าท้องแข็งเกร็ง ซึ่งเป็นอาการของเยื่อบุช่องท้องอักเสบจึงตัดสินใจผ่าตัดให้ พบว่ามีเม็ดกระท้อนอยู่ในช่องท้อง และพบรูทะลุบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร มีอุจจาระรั่วเข้ามาในช่องท้อง ทำให้มีเยื่อบุช่องท้องอักเสบรุนแรง จึงได้เย็บรูทะลุ แล้วก็เอาลำไส้ส่วนเหนือต่อรูทะลุมาเปิดหน้าท้องให้ นอกจากนี้คนไข้ยังติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ นอนดูอาการในห้องไอซียูอีก 10 วัน จึงดีขึ้น ตอนนี้คนไข้กลับบ้านได้แล้ว กรณีนี้เป็นข้อเตือนว่า การกลืนเม็ดผลไม้เป็นอันตรายมาก ถ้ากลืนลงไปแล้วเม็ดผลไม้นั้นผ่านหลอดอาหาร กระเพาะอาหารได้ตามปกติก็ถือว่าโชคดีไป เพราะร่างกายจะขับถ่ายออกไปได้โดยที่ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นวัตถุมีคมอาจทะลุทางเดินอาหารที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในช่องท้องได้ โดยเฉพาะเม็ดกระท้อน ถ้าสังเกตให้ดีจะมีปลายด้านหนึ่งแหลมกว่าอีกด้านหนึ่ง และเวลาที่เรากลืนมันจะลื่นๆ เนื่องจากมีส่วนเนื้อติดอยู่ แต่พอผ่านการย่อยและดูดซึม จะเหลือเฉพาะตัวเม็ดที่ค่อนข้างคม จึงตำทะลุลำไส้ออกมา ได้ การกลืนเม็ดกระท้อนลงไปจึงถือว่าเป็นการเสี่ยงต่อการเกิดลำไส้ทะลุได้ เมื่อกัดกินเนื้อหมดแล้วควรคายเม็ดทิ้งไปเลย ไม่ต้องเสีย ดาย" น.พ.นพวัชร์กล่าว จากมติชน รายวันวันที่ 13 ก.ค. 44 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 9 ก.ย. 46 02:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตามด้วยสูตรแกงคั่วกุงกระท้อนค่ะ ( แต่ชอบแกงคั่วไข่แมงดา+กระท้อนมากกว่าง่ะ ) . แกงคั่วกุ้งกระท้อน เครื่องปรุง - มะพร้าวขูด 500 กรัม - กระท้อนลูกใหญ่ 3 ลูก - กุ้งนาง 7 ตัว - น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ - มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกง - พริกแห้ง 7 เม็ด - ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ - ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ - รากผักชี 1 ช้อนชา - กระเทียม 7 กลีบ - เกลือป่น 1 ช้อนชา - ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา - หอมแดง 3 หัว - พริกไทย 7 เม็ด - ปลากรอบหรือปลาสลาด 1 ตัว (แกะเอาแต่เนื้อ) - กะปิ 1 ช้อนชา * โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด วิธีทำ 1 ปอกเปลือกกระท้อน ฝานแฉลบอย่าให้ชิ้นใหญ่นัก แช่น้ำเกลือ พักไว้ 2 ปอกเปลือกกุ้ง ตัดปลายหัว ผ่าหลังเอาเส้นสีดำออก กลับหางเข้าหัวในวางเหยียดไว้ 3 คั้นมะพร้าวใส่น้ำ 2 ถ้วย คั้นให้ได้ 4 ถ้วย ช้อนหัวกะทิไว้ 1 ถ้วย 4 นำกระทะตั้งไฟใส่หัวกะทิลงไป พอแตกมันใส่เครื่องแกงผัดให้หอม ใส่กระท้อนเติมกะทิที่เหลือลงไป 5 ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก ใส่กุ้งลงไป พอกุ้งสุกยกลง http://www.mcdang.com/McDangKukou/m24-4-6.asp จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 9 ก.ย. 46 02:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตามด้วยกระท้อนทรงเครื่อง.. . กระท้อนทรงเครื่อง ใครมีสูตรกระท้อนทรงเครื่องบ้างกรุณาช่วยบอกด้วยค่ะ เด้กเด็ก 3/6/2545 11:48 ร่วมตอบคำถาม กรุณากดที่นี่ ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยเราชอบกินกระท้อนมากๆๆเลย แอนนี่ 3/6/2545 11:56 ความคิดเห็นที่ 2 การทำกระท้อนทรงเครื่อง มีส่วนผสมของน้ำตาลบี๊บ มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสง กุ้งแห้ง วิธีทำ โดยเอาน้ำตาลบี๊บมาเคี่ยวให้เหนียว ปรุงรสตามชอบใสเกลือนิดหน่อย บางท่านอาจจะใส่ กระปินิดหนึ่งก็ได้ แล้วก็นำมะพร้าว ถั่วลิสง กุ้งแห้งใส่ แล้วนำมาราดกับกระท้อน [email protected] 4/6/2545 11:40 http://www.mcdang.com/WebBoard/Question.asp?GID=11878 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 9 ก.ย. 46 02:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตบท้ายด้วยกระท้อนลอยแก้ว สุดอมตะค่ะ.. . อยากได้สูตรวิธีการทำกระท้อนลอยแก้ว อยากได้วิธีการทำกระท้อนลอยแก้วค่ะ ช่วงนี้ผ่านแถว ๆ ตลิ่งชัน เห็นมีกระท้อนขายเยอะไปหมดเลย นก 27/7/2545 16:41 ร่วมตอบคำถาม กรุณากดที่นี่ ความคิดเห็นที่ 1 กระท้อนลอยแก้ว มีผู้ตอบมากมายในเวบนี้ แต่ป้ายังไม่ได้เข้าไปดู ว่าเหมือนป้ารึเปล่า เอาเป็นว่าตอบแบบที่ป้าทำเองก็แล้วกัน นำกระท้อนห่อมาปอกเปลือก ล้างด้วยน้ำเกลือหนึ่งครั้งกันผิวดำขณะเฉาะให้เป็นซี่ๆรอบผล จากนั้นนำลงไปแช่ในน้ำเกลือหนึ่งคืน (น้ำเกลือที่ว่านี้ไม่ใช่น้ำเกลือที่หมอให้คนไข้นะ เป็นน้ำผสมเกลือแกง แล้วนำไปต้มให้เดือด ) เวลาจะใส่กระท้อนน้ำเกลือต้องเย็นสนิทก่อน หลังจากหนึ่งคืน ให้ลองชิมเนื้อกระท้อน ถ้ากระท้อนมีรสเปรี้ยวมาก ก็แช่ต่ออีกคืน แต่ถ้าชอบก็เอาออกมาได้เลย บีบน้ำเกลือออกจากกระท้อน วางผึ่งไว้ จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเชื่อเข้มข้น สักคืนหรือสองคืน น้ำเชื่อมเข้มข้น คืนน้ำตาลทรายเคี่ยวกับน้ำไม่ต้องใส่เกลือแล้วเพราะในกระท้อนมีความเค็มอยู่ รอให้น้ำเชื่อมเย็นสนิทจึงใส่กระท้อน ถ้าอยากให้สวยงาม ควรหาโถใส ๆ แล้วเรียงกระท้อนให้สวยงาม จากนั้นเทน้ำเชื่อมแช่ไว้ จะทานเมื่อไรก็ตักขึ้นมา ที่บอกนี้เป็นกระท้อรลอยแก้วแบบลูก ส่วนบางคนทำแบบเป็นชิ้นๆ ก็คล้ายกันเพียงแต่ฝากเนื้อกระท้อนเป็นชิ้นๆบางๆแล้วแช่น้ำเกลือ ตามด้วยน้ำเชื่อม เวลาเสริฟก็ตักใส่ถ้วยแก้วโรยน้ำแข็งทุบสักหน่อย รสจะมีหวาน เค็ม อมเปรี้ยว อ่านที่ป้าเขียนมาซะยืดยาว ป่านนี้กระท้อนคงเหี่ยวหมดแล้ว รีบไปซื้อน้ำตาลทรายมาเร็วๆ แล้วป้าจะได้ชิมไม๊เนี่ย ป้าLilyหัวหิน 28/7/2545 23:10 ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากค่ะ... เพิ่งได้มีโอกาสมาอ่าน ไว้ถ้าอร่อย ป้าได้ชิมแน่ ๆ ค่ะ :) นก 7/8/2545 18:03 http://www.mcdang.com/WebBoard/Question.asp?GID=12726 จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 9 ก.ย. 46 02:23:48 ]