ความคิดเห็นที่ 1 soundcard ขับลำโพงหลายตัวไม่ไหว ต้องผ่านเครื่องขยาย หรือที่เรียกว่าแอมป์ ลำโพงปกติมาค่าความต้านทาน 4 หรือ 8 โอห์ม การต่อจำนวนมาก มีหลายวิธี แบบ อนุกรม ค่าความต้านเพิ่ม ต่อขนานความต้านทานโดนหาร ต่อผสม อยู่ที่ลำโพง และช่องต่อขยายของแอมป์ว่าต้องต่อกับลำโพงกี่โอห์ม ยกตัวอย่าง แอมป์ ขับ 8 โอห์ม ก็ต้องต่อโหลดกับลำโพง 8 โอห์ม หากเป้นสเตอริโอกับได้ 2 ช่อง ซ้ายขวา หากต่อมากกว่านั้น ก็สามารถต่อได้ ยกตัวอย่างเช่น เอาลำโพง 8 โอห์ม มาอนุกรมกัน ได้ 16 โอห์ม เอา 2 ชุดมาขนาน จะได้ลำโพงทั้งหมด 4 ตัว ความต้านทานรวม 8 โอห์ม หากต่อ 2 ฝั่งซ้ายขวาก็ได้ 8 ตัว มาเข้าแอมป์ ได้ที่ความต้านทานเท่าเดิมแต่ต่อลำโพงได้ถึง 8 ตัว จากคุณ : 7777777777777 - [ 15 พ.ย. 54 16:30:07 A:192.168.0.127 X:27.130.163.7 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนครับ - แผนผังการจัดวาง และระยะทาง จากเครื่องไปยังลำโพงแต่ละตัว - ระดับความดังที่ต้องการ - คุณภาพของเสียงที่ต้องการ วิธีการกระจายสัญญาณจะขึ้นกับแต่ละรูปแบบ และความต้องการข้างต้นด้วยครับ จากคุณ : xx - [ 15 พ.ย. 54 18:57:39 A:192.168.0.82 X:58.136.208.94 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผังตามนี้เลยครับ เดินสายตรงๆได้เลย 4 กลุ่ม 2 + 2 + 4 +2 ไม่ต้องการดังมาก แบบเปิดในร้านอาหารทั่วไป อาจจะดังกว่านั้น 20% คุณภาพก็ให้ฟังแล้วโอเค ไม่ต้องดีมาก แต่ก็ห้ามแย่เกิน รบกวนหน่อยนะครับ จากคุณ : snpt - [ 15 พ.ย. 54 20:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าความต้องการแค่นั้น ผมว่าทำอย่างนี้ดีกว่า - หาเครื่อง mini combo ที่เล่น usb/cd/dvd/tuner/aux (ไว้ต่อเสียงจาก PC) ขนาดวัตต์ตามใจชอบ ตัวนึง - แต่ละจุดใช้ลำโพงขนาด 6 นิ้ว 8 โอห์ม 5-10 วัตต์ หาหน้ากากติดเพดานมาด้วย - ในรูปเห็นอยู่สิบจุด ถ้าจุดเขียวล่างขวาสองสุด ยุบเหลือจุดเดียวได้ ก็จะจัดง่ายหน่อย คือ ชมพู+ ส้มสองตัวบน เป็นชุด A และ ม่วง + ส้มสองตัวล่าง + เขียว เป็นชุด B - ชุด A มีสี่ตัว ให้แยกเป็นชุดย่อยชุดละสองตัว ในแต่ละชุดย่อย ให้ต่อลำโพงแบบอนุกรมกัน แล้วเอาสองชุดย่อยมาต่อขนานกัน เดินสายไปที่ชุดเครื่องเสียง - ชุด B มีห้าตัว ทำคล้ายๆ ชุด A แต่สองชุดย่อย จะมีสามตัวต่ออนุกรมกันชุดนึง กับสองตัวต่ออนุกรมกันอีกชุดนึง แล้วก็จับสองชุดย่อยมาต่อขนานกัน เดินสายไปที่ชุดเครื่องเสียง - เอาชุด A ต่อเข้าจุดต่อลำโพงข้างนึง ส่วนชุด B ต่อเข้าอีกข้างนึง เท่านี้แหละครับ ไม่ต้องไปลงทุนเป็นหลายหมื่นหรอกครับ ถ้าอยากเสียหลายหมื่น เอามาให้ผมดีกว่าครับ จากคุณ : xx - [ 15 พ.ย. 54 20:34:39 A:192.168.0.82 X:58.136.208.94 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 5 ผมพยายามนึกภาพตามแต่ งงๆ mini combo มันจะช่วยยังไงเหรอครับ? ในเมื่อ output มันมีอยู่อันเดียว? แต่วิธีที่เสนอมานี่ดีมากเลย ผมเลยลองไปศึกษาต่อ แล้วคิดว่าใช้วิธี ใส่ soundcard ไป 1 อัน กลายเป็นคอมมี 2 output ที่ไม่แย่งกันใช้ไฟ? เท่ากับคุณภาพน่าจะดีหรือเปล่า และคราวนี้ก็ใช้โปรแกรมทำให้ทั้ง 2 output เล่นจาก player ตัวเดียว 2 outputนี่ก็ต่อกับพวก pc 5.1 2ชุดง่ายๆ = 10ลำโพง คิดว่าโอเคไหมครับ? จากคุณ : snpt - [ 16 พ.ย. 54 00:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จะให้ soundcard ขับลำโพงโดยตรง คงไม่ได้ เพราะ card ไม่มีกำลังขับ ต้องต่อแอมป์แยกต่างหาก เอาง่ายครับ ลำโพงมีกี่ตัว เอามารวมกันดู ว่าแต่ละตัวมีความต้านทานกี่โอม(ถ้าเหมือนกันหมดก็ง่ายต่อการคำนาน) จัดกลุ่มลำโพงที่จะวาง หลักการของความต้านทาน ต่ออนุกรม ความต้านทานบวกกัน ต่อขนาน2ตัว ถ้าความต้านทานเท่ากันจะหาร2  แต่แนะนำให้ใช้ลำโพงที่เหมือนกัน ความดังจะได้ไม่แตกต่างกันมาก ทีนี้ก็มาดูว่าจะใช้แอมป์กี่ช่อง ถ้าเอาเครื่องเสียงที่บ้านมาต่อ ปกติทั่วไปก็จะมี 2 ก็จะมีกลุ่มใหญ่ 2ชุด ก็จัดลำโพง อนุกรมหรือขนานผสมกันไม่ให้ต่ำกว่า 2 โอห์ม ต่อช่อง แค่นี้แหละ จากคุณ : kobe30 - [ 16 พ.ย. 54 01:38:37 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 7 ทำตามผม งบเหลืออื้อครับ ๑. ต่อจากคอมพ์นั่นแหละ ไปเข้าแอมป์บ้านๆ ธรรมดาซักตัว    ที่มีขายตามตลาดเปิดท้ายนั่นแหละ ๒. ลากสายไปที่ลำโพงทุกตัวแบบขนาน ลำโพง เลือกเป็น ๖ x ๙ นิ้ว สามทางของรถยนต์ ซื้อได้ตาม บ้านหม้อ คู่หนึ่ง มีหลายราคามาก ประมาณ คู่ละ ๕๐๐ บาทก็ เหลือแหล่สำหรับการเปิดเบาๆ ประกบตู้สำเร็จ มีขายลูกไม่ถึง ๑๐๐ บาท ที่เหลือก็จับยึด หรือ วางตามใจท่านต้องการ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 16 พ.ย. 54 01:50:22 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทั้งสองท่านครับ ลองไปศึกษาตามคุณ kobe30 เลยได้ความรู้เย่อะเลย วิธีของคุณ สยึมกึ๋ย ก็ดีครับ ถูกกว่าที่ตั้งไว้เย่อะเลย ขอถามเพิ่ม 1 -ถ้าต่อขนาน มีข้อดีกว่า อนุกรม อย่างไรบ้างเหรอครับ? ทำไมถึงแนะนำแบบขนานเหรอครับ 2 - amp ที่รองรับลำโพง ๖ x ๙ นิ้ว ซัก 12 ตัวแบบขนาน ควรมีspec ประมาณไหนที่ต้องดูบ้างครับ? 3 - ลำโพง เลือกเป็น ๖ x ๙ นิ้ว นั้นถ้าคุณภาพดีหน่อยจะราคาประมาณเท่าไหร่? พอดีว่าถูกกว่างบที่ตั้งไว้เย่อะ เลยจะซื้อของดีหน่อยก็ได้ ผมเดินบ้านหม้อไม่ค่อยเป็น มีร้านไหนพอแนะนำไหมครับ ไม่งั้นคงถูกหลอกแน่นอน ขอบคุณมากๆเลยนะครับ จากคุณ : snpt - [ 16 พ.ย. 54 03:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลำโพงคอมมันมี 2 แบบ คือตัวเล็กกำลังต่ำขับจากซาวการ์ดได้โดยตรง กับแบบมีขยายในตัว ต่อเยอะต้องเลือกแบบมีขยายในตัวมาใช้ หรือตัวขยายแยก 1. ต่อขนาน มันง่ายในการพ่วงเพราะลากสายมามาแต่ละใบมาพ่วงกันได้เลย แต่ความต้านทานจะลดลง หากเป็นลำโพง 8 โอมห์มาพ่วงกัน 2 ลูก ความต้านานจะเหลือ 4 , 4 ใบ ความต้านทานเหลือ 2 โอห์ม เพื่อให้ต่อได้เยอะ อาจเลือกลำโพง 16 โอห์มมาใช้เพราะขนานกันได้เยอะกว่า จุดประสงค์คือเราอย่ามามัวขนานกัน ดูแอมป์ดูความต้านทานของลำโพงทั้งหมดด้วย ว่ามันจะเป็นโหลดให้แอมป์เกินไปไหม เด๊่ยวแอมปืมันขับไม่ไหว ทางเทคนิคคือ "กินแอมป์" คือต้องใช้แอมป์ที่กำลังสูงขึ้นเพื่อขับมัน 2 - amp ที่รองรับลำโพง ๖ x ๙ นิ้ว ซัก 12 ตัวแบบขนาน ควรมีspec ประมาณไหนที่ต้องดูบ้างครับ? ที่ลำโพง 8 โอห์ม มาพ่วงกันหมด 12 ตัว ความต้านจะน้อยเกินไป ที่แอมป์จะขับไหว แอมป์จะร้อน ไหม้ และเสียได้ ไม่ใช่ว่าเราจะขนานกันท่าเดียวได้ทั้งหมด ควรขนานกันชุดละไม่เกิน 4 ตัว แน่นอนว่าวิธีการอนุกรมมาใช้บ้าง จะแบ่งภาระของแอมป์ลงไป แนะนำว่าพยายามเลือกลำโพงที่ 16 โอหืมก่อน เพราะเอามาขนานกัน 8 ตัว แอป์ทั้วไปยังเอาอยู่ เวลาชือแอมป์มันจะมีสเป็คว่า เอากี่วัตต์ขับลำโพงกี่โอห์ม ก็เลือกที่มันขับลำโพงโอห์มน้อย เช่น 2 โอห์มหรือต่ำกว่าได้ เพราะจุดประสงค์เรา เอามาขับลำโพงที่ขนานกัน โอห์มมันจะต่ำลง เลือกกำลังวัต์แบบชิลๆ ก็ 100 วัตต์ขึ้น เขาจึงแนะนำมิโนโคมโป เพราะมันเป้นเครื่องเล่นและแอมป์ในตัวอยู่แล้ว แถมราคาไม่กี่พัน ลูกเล่นอีกอื้อ หากมีกำลังชื้อ แนะนำของ crown ทนอึดได้ใจ แต่แพงหน่อย http://www.crownaudio.com/amp_htm/macronew.htm 3 ลำโพง เลือกเป็น ๖ x ๙ นิ้ว เลือกของมียี่ห้อ หรือไปเลือกจากร้า่นเครื่องเสียงประดับยนต์ไปเลย หาหนังสือรถสักเล่ม มีโฆษณาเยอะแยะ ส่วนตู้หาชื้อได้ที่บ้านหม้อ ราคาตามใจท่านเถิด ตีไว้เล่นๆใบละ 1000 ก้ได้ 12 ตัวก้ 12000 บาท หากทำร้านอาหารแนะนำลำโพงตัวนึง เขาเรียกว่าลำโพงลูกเต๋า http://zynx.tarad.com/product.detail_0_th_301628 ทำมาจากโรงงานเดียวกับโบส บ้านหม้อมีขาย เสียงดีเชียวคู่ละ 800-1500 พร้อมขายึดตัวเล้กแต่เสียงดีมาก จากคุณ : 5555555555555 - [ 16 พ.ย. 54 14:15:04 A:192.168.0.127 X:27.130.163.7 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ คุณ5555555555555 มากครับ ความรู้ทั้งนั้นเลย ลำโพงลูกเต๋าก็ดีนะครับราคาไม่แพงดี แต่เข้าไปดู spec มันเป็น 8 โอมห์ เท่ากับสามารถทำขนานได้ 3 ชุด แล้วก็ต่ออนุกรม เป็น 4 + 3 + 3 ยังงี้ใช่ไหมครับ ส่วน amp ตัวในรูปใช่ราคา 80000หรือเปล่าครับ มันเกินงบไปเย่อะเลย พอจะแนะนำรุ่นอื่นได้ไหมครับ ถ้ายี่ห้อเดียวกันเห็น Crown XLS-1000 Stereo, 2 ohms (per ch.) 550W อันนี้ใช้ได้ไหมครับ ตอนนี้สมมุติว่าซื้อ ลำโพงลูกเต๋า 10 ตัวก็ 1 หมื่น ก็มีงบเหลือ 10000-20000 สำหรับampนะครับ เอาแบบที่หาได้ง่ายๆในบ้านหม้อก็ได้ครับ รบกวณอีกทีนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : snpt - [ 16 พ.ย. 54 15:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ซื้อเครื่องขยายแบบที่ใช้เสียงตามสาย 1 ตัว หาลำโพงที่แบบใช้ อินพีแดนซ์แมทชิ่งทรานฟอร์เมอร์ หรือเลือกลำโพงทั่วไปก็ได้ แล้วก็ต่อผ่านหม้อแปลง ไม่ต้องไปสนเรื่อง ขนานหรืออนุกรม เพียงแค่เดินสาย line สองเส้น แล้วต่อขนานกับ หม้อแปลงทุกตัวของลำโพง แล้ว output ของหม้อแปลงอีกที่หนึ่ง แล้วแต่จะเลือก กี่โอห์ม ดูตามความเหมาะสมกับลำโพง งบประมาณน่าจะเอาอยู่ ระบบนี้เขาใช้ตามห้างครับ เสียงขึ้นอยู่กับอุปกรณืครับ โชคดีครับ จากคุณ : sutat212 - [ 16 พ.ย. 54 17:04:42 A:192.168.0.82 X:58.11.185.83 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 12 คุณไม่ได้เปิด เทค หรือ ผับ ไม่ต้องใช้ของแพงหรือแบรนด์ขนาดนั้นก็ได้ครับ แอมป์บ้านหม้อซักตัวก็พอแล้ว เพียงแต่ วางแผนการวางลำโพงและจัดกลุ้มให้เหมาะสมก็ใช้งานได้แล้ว แต่ถ้ากลัว งบเหลือ ก็จัดไป การต่อลำโพง แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อนุกรม ขาดหรือสายหลุด ก็ไม่ดังทั้งหมด ต่อมาก เสียงค่อยลง ขนาน มากเกินไป ก็เกิดภาระแก่แอมป์มาก(อาจถึงพัง) ถ้าขนาน พอดีๆ ก็มีข้อดี(ได้กำลังมากขึ้น) ส่วนแบบ ตามสาย อาจจะต้องมืออาชีพหน่อย เพราะต้องมีการแมตช์ ความต้านทาน(อิมพีแดนซ์) ด้วย จากคุณ : kobe30 - [ 16 พ.ย. 54 19:04:51 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณ คุณ sutat212 ครับ แต่คิดว่าการเดินแบบ ตามสายอย่างที่ว่าถ้าจะยากไปสำหรับผม ตอนนี้เท่าที่ดูก็คงเดินแบบ ขนาน3ชุด แล้วอนุกรมเอาครับ ส่วนคุณ kobe30 ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำแอมป์ สำหรับ ลำโพงลูกเต๋าที่ว่ามาได้ไหมครับ http://zynx.tarad.com/product.detail_0_th_301628 เดินแบบ 4 + 4 +2 spec amp ต้องมีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : snpt - [ 16 พ.ย. 54 20:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปบ้านหม้อ ร้านนัฐพงษ์ เลือกตามใจชอบ ในงบที่ต้องการ การต่อก็ต่อแบบนี้ก็ได้ คือ ลำโพงมี 1 -10, + คืออนุกรม , // คือขนาน ชุดที่ 1 หมายเลข 1+ 2 // 3 +4 // 5 ความต้านทานคือ 16 // 16 // 8 มีค่าประมาณ 4 โอห์ม ชุดที่ 2 หมายเลข 6+ 7 // 8 +9 // 10 ความต้านทานคือ 16 // 16 // 8 มีค่าประมาณ 4 โอห์ม 2 ชุดมาขนานอีกที ความต้านทานรวมคือ 2 โอห์ม ไม่เลวร้ายเกินไป อันที่จริงน่าเสียดาย ช่องแอมป์อีกข้าง เพราะคุณเล่นต่อโมโน คือใช้ข้างเดียว ปกติน่าจะเรียง ทั้งซ้ายทั้งขวา เสียงแบบสเตอริโอ ดังดีกว่าเยอะ และถือว่าใช้แอมป์ไม่คุ้ม หากหาแอมป์แบบโมโนมาได้ก็จบ เรื่องยี่ห้อ งบสักหมื่น 2 หมื่น ยี่ห้อ DENON หรือ NAD ของ magnet นี่ก้เสียงดี เอาเป้นว่ามันแล้วแต่ความชอบละกัน เวลาเลือกแฟน เขายังชอบไม่เหมือนกันเลย ไปลองฟัง ชอบก็ชื้อ ทั้งแอมป์ทั้งลำโพง ร้านใหญ่ๆเขาไม่ฟันราคาคุณหรอก เขาต้องขายลูกค้าอีกนาน ไปนั่งคุยระบบกับเซลลก็ได้ เผื่อเขามีคำแนะนำดีๆ และเอาแผ่นที่ชอบเปิด ติดมือไปด้วย ให้เขาลองเสียงให้ อันที่จริงเผื่อ ออพชั่นพวกปรีแอมป์ อีควอ หรือมิกเซอร์ไว้ก็ดี เผื่ออยากปรับปรุงเสียง หรือเพิ่มการกระจายเสียง มิกเสียง ผ่านระบบนี้ ขอให้โชคดี จากคุณ : 88888888888 - [ 16 พ.ย. 54 21:43:46 A:192.168.0.82 X:27.130.163.7 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 15 และเพื่อทดสอบหรือไม่อยากทำสายให้วุ่นวาย โยงสายจากลำโพงทุกตัวมาที่แอมป์ จะอนุกรม จะขนาน ก็ทำกันตรงนี้ ทดสอบไปในตัว ว่าเสียงแบบไหน ต่อแบบไหน เสียงดี เสียงเบา เสียงค่อย น่าจะจบเรื่องการเดินสาย ว่าเรื่อง Denon ต่อ พรรคพวกว่า หากชอบเสียงหวานๆใสๆ ให้เอาเดนอน ยังกับไปมันไปนอนกก มาแล้ว ..ฮา จากคุณ : 88888888888 - [ 16 พ.ย. 54 21:50:05 A:192.168.0.127 X:27.130.163.7 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แนะนำอีกอย่างครับ ระบบที่ผมเกิ่นไว้ สามารถหาซื้อได้ ที่ร้านนัฐพงษ์ ราคาไม่สูงมาก อย่างหม้อแปลง ก็ไม่เท่าไร ลำโพง แอมป์ แล้วแต่จะชอบครับ ลองปรึกษาทางร้านดู อีกระบบ ที่พอจะแนะนำได้ คือใช้ลำโพงที่มีแอมป์ในตัว แล้วเดินสายสัญญาณเสียง แบบ อันบาลาน มาเข้าชุดควบคุม แต่ก็คงต้องเดินไฟให้มันด้วย แต่ข้อดี คือสามารถ ควบคุมเสียงของแต่ล่ะลำโพงได้ ก็ลองดูน่ะครับ จากคุณ : sutat212 - [ 16 พ.ย. 54 22:28:12 A:192.168.0.82 X:58.11.185.83 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณทุกท่านสำหรับความช่วยเหลือนะครับ ได้ความรู้เย่อะจริงๆ ได้ลองนำkeyword ไปศึกษาต่อแล้วได้ความรู้ดีครับ แต่ก็ยังงงๆ เรื่องวิธีต่อกับการคำนวน แต่คงเป็นเพราะไม่เคยทำด้านนี้มา ก็แอบสงสัยว่า ปรกติคนทั่วไปถ้าอยากจะติดตั้งลำโพงนี่ต้องศึกษาเย่อะขนาดนี้เลยเหรอ : p เดี๊ยวว่างๆจะไปลองเดิน นัฐพงษ์ ดูครับ ส่วนเรื่องวิธีดู amp กับเลือก ลำโพงที่มีแอมป์ในตัว เดี๊ยวจะลองไปศึกษา+ถามเซลล์เอาหน้างานละกันครับ ขอบคุณอีกทีนะครับ ช่วยผมได้มากเลย จากคุณ : snpt - [ 17 พ.ย. 54 01:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลำโพงที่มีแอมป์ในตัวก็มีข้อดี แต่ข้อจำกัดเยอะไปนิด ต้องดูพิ้นที่ว่าห่างมากแค่ไหน สัญญาณ ไลน์ เดินยาวๆ เกิน 2m  ก็จะมีสัญญาณรบกวนได้ง่าย แล้วยังติดปัญหา จะกระจายสัญาณยังไงให้ครบทุกตัว ยากกว่าเดิมอีก สายสัญญาณ line ดีๆ แพงกว่าสายลำโพงซ่ะอีก (ในกรณีที่เดินสายยาว) ปล ถ้าลำโพงแค่2-3 ตัวก็ไม่ต้องศึกษาไรมากมาย พ่วงๆมันเข้าไปเลย แต่ถ้าเป็น10 แบบ จขกท ก็ต้องศึกษาครับ จากคุณ : kobe30 - [ 17 พ.ย. 54 12:57:32 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 19 ทำตามความเห็น 11,16 จะเหมาะสม ติดตั้งง่าย ค่าใช้จ่ายไม่แพง ใช้แอมป์เสียงตามสาย mixer ในตัว 1 ตัว (ของ NPE PDA-150ไม่แพง ตัวละประมาณ 5000-6000 ถ้าของดีก็ TOA อาจจะถึงหมื่น) ลำโพงเสียงตามสายมี matching ในตัวขนาด 5 นิ้ว คู่ละประมาณ 2000 หรือ 4 นิ้ว คู่ละ 1500  ทั้งหมด 5 คู่ เป็นตู้อย่างดีพร้อมขายึด ลำโพงทุกตัวจะต่อขนานกันหมด ผ่านสายหลักเพียงคู่เดียว ปัญหาจะน้อยสุด การเดินสายไฟก็ง่าย ใช้สาย drop wire เดินคู่เดียวก็ได้ เดินสายได้ไกล เพราะใช้ line 70 หรือ 100 V  ไม่ต้องกลัวเรื่อง impedance ของลำโพง การต่อลำโพงอนุกรมและขนานกันผสมกัน หลาย ๆ ตัวนิยมทำกรณีติดตั้งเป็นกลุ่มไม่ห่างกัน กรณีนี้อยู่ห่างกันจะมีปัญหาเรื่อง loss ในสาย ถ้าใช้ line จะลดปัญหาลงได้เยอะ งบน่าจะประมาณ 15000-20000 สำหรับ 10 จุด จากคุณ : loi - [ 18 พ.ย. 54 11:10:50 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 20 ไปเดินมาเรียบร้อยแล้วครับ ซื้อลำโพงลูกเต๋า microlab คู่ 1200 + ขายึด 200 = 7000 ไม่มี matching ในตัว เดี๊ยวต้องกลับไปซื้อ 10w line matching 135 บาท 10ตัว และซื้อ amp line 100w+ ปล นัฐพงษ์ มีขาย 10w line matching 135 บาท กับ weather sealed 45w line matching 400+ บาท  มันต่างกันมากมั้ยครับ amp npe กับ toa อันไหนน่าซื้อกว่าครับ npe ดันเหลือแต่ 400w 8900 ซึ่งผมต้องใช้แค่ 100w เอง หรือจะใช้ toa เลยดีครับ จากคุณ : snpt - [ 19 พ.ย. 54 00:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กรณีใช้ลำโพงลูกเต๋า matching 10W ก็พอ ตอนต่อกับลำโพง ต่อให้ถูกก็แล้วกัน  matching ด้านหนึ่งจะต่อกับ line 70V หรือ 100V  ต่อให้ตรงกับขั้วไลน์เอาต์พุตของแอมป์  อีกด้านของ matching จะบอกอิมพีแดนซ์ลำโพงที่จะต่อด้วย  ลำโพงลูกเต๋าน่าจะ 4 โอห์ม (เช็คอีกที) แอมป์เอาคุ้มเงินก็ NPE เผื่อ watt ด้วย 400 ก็ดีกว่า 150  เอาของดีก็ TOA แต่เปลืองเงินถ้าวัตต์สูงก็หลายตังค์ (NPE LPA-400 ราคาใน web ของ npe 8000  LDM-400 8500บาท ไปซื้อที่ร้านมีลด  ลองดูใน http://www.mynpe.com ก่อนมีหลายรุ่น ในหมวด power mixer) * เสียดายไป NPE น่าจะยกลำโพงสำเร็จมี matching ในตัวของ NPE มาเลยราคาไม่แพง หุ่นดูดี ประกอบง่ายไม่พ่วงสายรุงรังและเข้ากันกับ แอมป์ของ NPE จากคุณ : loi - [ 19 พ.ย. 54 15:18:23 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 22 อ่อครับ งั้นเดี๊ยวไปดู amp npe อีกที ส่วนที่ซื้อลูกเต๋า เพาะหน้าตามันดูเหมาะกับร้านมากกว่านะครับ เลยต้องยอมต่อสายรุงรัง ว่าแต่อุปกรณ์ ลักษณะนี้ ควรใช้สายหลัก เมตรละประมาณเท่าไหร่ครับ? ไปดูมา70บาท? ม้วนละ 7000 โอเคไหมครับ ส่วนสายพ่วงยังไม่ได้ดูเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : snpt - [ 19 พ.ย. 54 19:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สายลำโพงเมตรละ 70 บาทน่าจะเเป็นสายที่ใช้กรณีปกติ คือต่อจากแอมป์เข้าลำโพงตรง ที่ 8 หรือ 4 โอห์ม หรือต่อขนานลำโพง  เส้นจะใหญ่เพราะต้องรับกระแสสูง กรณีต่อ line 70 หรือ 100V กระแสจะต่ำ สายไม่จำเป็นต้องใหญ่ก็ได้ ราคาจะถูกลงไปอีกเยอะ ตามหมู่บ้านจะใช้สาย drop wire เพราะมีแกน support อย่างนั้นใช้นอกอาคาร เป็นในอาคาร ควรดูว่าจะวางสายอย่างไร  มีตัวยึดหรือไม่ บางทีเอาสายไฟอ่อน pvc 1 หรือ 1.5 ตมม. เดินยังได้ แล้วร้อยท่่อกันหนูกัด สายหลักเดินยาวตลอดแล้ว jump สายเป็นจุด ๆ จะป้องกันปัญหาสายหลุด แบบต่อโยงเป็นทอด ๆ หลุดแล้วหลุดเป็นพวง แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 54 18:52:30 จากคุณ : loi - [ 20 พ.ย. 54 18:51:07 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 24 ได้ครับ เดี๊ยวไปปรึกษาคนขายอีกที ขอบคุณมากเลยครับ ที่ช่วยกลับมาเคลีย์คำถามให้ตลอดเลย  : D จากคุณ : snpt - [ 21 พ.ย. 54 19:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้จะไปซื้อแล้วครับ แต่ของหมด คนขายเขาแนะนำ mono amp แบบมี line ในตัว เห็นเขาบอกว่าต่อไม่ไกลแบบนี้ ไม่ต้องใช้ line switching เลย ต่อตรงง่ายๆได้เลย ไม่ทราบว่าวิธีนี้โอเคไหมครับ? แล้วมันต่างกับ line amp แบบ line switching ยังไงบ้าง หรือมันคืออันเดียวกัน? ขอบคุณครับ จากคุณ : snpt - [ 23 พ.ย. 54 19:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แบบ line switching จะเลือกโซนได้  แผงหน้าจะมีสวิตช์กด มีชุดไมค์เรียกแถมด้วยเสียงเรียกติ๊งหน่อง ก่อนพูด  แบบเดียวกับใช้ตามห้าง มันก็คือ amp + line transformer + control unit ส่วน mono amp แบบ line ในตัว ก็คือ amp + line transformer ปกติ amp เอาต์พุตจะเป็น 4 หรือ 6 หรือ 8 โอห์ม ต่อลำโพงปกติ ถ้าต้องการจ่ายระยะไกลหรือเสียงตามสาย ก็จะใช้ line output transformer ต่อพ่วงเข้า ขาเข้าจะเป็น 4-6-8 โอห์ม ต่อให้ตรงกัน ด้านออกจะเป็น 70 หรือ 100V  ลำโพงที่นำมาต่อก็ต้องมี matching transformer แปลงจาก 70-100V เป็น 4-6-8 โอห์มตามลำโพง  ทำอย่างนี้เป็นการลด loss ในสายได้ ถ้าต่อที่อิมพีแดนซ์ต่ำ ลากสายยาว ๆ กำลังไฟฟ้าจะตกในสาย แถมต้องใช้สายขนาดใหญ่ การต่อทั้งสองแบบเหมือนกัน  นึกถึงการต่อสายไฟบ้าน  สมมุติให้ลำโพงที่มี matching แทนด้วยปลั๊ก  กรณี line ปกติก็คือแผงเมนสวิตช์ชุดเดียวไม่มีลูกย่อย ลากสายคู่เดียวจะเป็น 70 หรือ 100V แล้วก็ต่อปลั๊ก (ลำโพง) พ่วงไปเรื่อย อย่าให้กำลังรวมของปลั๊ก(ลำโพง) เกินเมนสวิตช์ (amp) เดี๋ยว amp พังก่อน   ส่วนแบบ switching ก็เหมือนแผงสวิตช์มีลูกย่อย  การเดินสายก็ต้องจัดชุดเป็นโซน แต่ละโซนก็ลากสายคู่เดียว พ่วงปลั๊กไปเรื่อย  กำลังรวมทั้งหมดต้องไม่เกินขนาด amp  เวลาใช้งานก็เลือกว่าจะใหเสียงดังเฉพาะโซนหรือดังทั้งหมดได้ มีลูกเล่นอืน ๆ เช่น เสียงเรียก ทำไมเป็นโมโน  เพราะเสียงตามสายปกติจะวางลำโพงเป็นจุด ๆ กระจายไป หลายทิศทาง จึงไม่จำเป็นต้องเป็นสเตอริโอ ซึ่งต้องวางเป็นคู่ สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ mono amp แบบ line ในตัวส่วนใหญ่ของไทย ส่วน แบบ switching มักเป็นของ brand ดังเช่น bosch /philips  TOA ฯลฯ  ซึงคุณภาพดีกว่า และแพงกว่า จากคุณ : loi - [ 24 พ.ย. 54 11:28:37 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 27 อ่อครับ เข้าใจเรื่องไฟฟ้ามากขึ้นละ สรุป amp control unit คล้ายจะมาแทน speaker matching transformer นี่เอง แต่เวลาต่อก็ต้องจัดลำโพงเป็นชุดอยู่ดี ตรงนี้เพราะอะไรเหรอครับ? มันจ่ายเป็น 100watt หรือ 4-6-8ohm เหรอครับ มึนๆ สรุปง่ายๆว่าผมมีตัวเลือก 3 แบบใช่ไหมครับ line switching amp>normal speaker line mono amp>matching tranformer>normal speaker line mono amp>line matching speaker ซึ่งแบบ3ผมใช้ไม่ได้เลยต้องหา matching transformer มาทำเป็นแบบ2 หรือซื้อamp แบบ1แทน แล้วคราวนี้แบบ1ใช้แบบนี้? line switching amp>ขนาน 5ชุด>แยกเป็นอนุกรม อย่างละ2ชุด>normal speaker แบบนี้เหรอครับ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันจะช่วยยังไง ส่วนแบบนี้คนขายมีให้เลือก amp ยี้ห้องขึ้นต้นด้วย r ราคา 6000บาม กับ toa 14000บาท ควรเลือกแบบไหนครับ หรือมียี่ห้อไหนพอแนะนำได้ไหม เพราะรู้สึก npe จะไม่มีของเนื่องจากน้ำท่วม ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : snpt - [ 24 พ.ย. 54 14:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สงสัยจะเรียบเรียงข้อความยาวไปหน่อย เลยทำให้เข้าใจผิด เริ่มใหม่  ขอให้แยกเป็น 2 ส่วนคือ แอมป์ กับ ลำโพง amp ปกติทั่วไป ด้านออกจะเป็น low impedance ปกติ คือ 4 หรือ 8 โอห์ม   ลำโพง ปกติก็เป็น low impedance ปกติคือ 4 หรือ 8 โอห์ม ก็เอามาต่อกันตามปกติ ที่คุ้นเคยกัน   ถ้าจะมาต่อขนานหรืออนุกรมลำโพง ก็ต้องดู impedance อย่าให้ overload กระทู้บน ๆ มีคนอธิบายไว้แล้ว เมื่อเป็น low impedance ที่กำลังงานสูง กระแสจะสูงตามทำให้เกิดปัญหา loss เมื่อต้องเดินสายไกล ๆ หรือ พ่วงลำโพงขนานมาก ๆ เร่งเสียงอย่างไร ปลายทางก็ไม่ดัง ดังนั้นเพื่อลดปัญหา loss เลยส่งเป็น high impedance  เพิ่มแรงดันขึ้น กระแสจะลดลง วิธีการคือ เอาหม้อแปลงมาต่อที่ด้านออกของ amp ปกติ เพื่อแปลง  หม้อแปลงนั้นเรียกว่า output line transformer หรือ หม้อแปลงไลน์เอาต์พุต ด้านออกของหม้อแปลงจะเป็น 70 หรือ 100V  ด้านเข้าก็เป็น 4 หรือ 8 โอห์ม นำ amp ปกติมาต่อกับหม้อแปลงไลน์เอาต์พุต  ก็สามารถใช้งานได้แล้ว แอมป์ที่ทำขายมาสำเร็จและมีหม้อแปลงไลน์ในตัวให้มาเลย จึงเรียกว่า ไลน์แอมป์  ปกติจะเป็น โมโน ก็เรียกว่า โมโน ไลน์แอมป์  และนิยมแถมมิกเซอร์มาด้วย ก็เลยเป็น โมโน ไลน์มิกซิ่งแอมป์   ถ้าจะเอาแอมป์ทั่วไปมาทำ line amp ก็ต้องซื้อหม้อแปลงไลน์เอาต์พุต มาต่อ  โดยขนาดของหม้อแปลงต้องรับกำลังวัตต์ได้พอด้วย amp ปกติ >> output line tr. >>  = line amp ***ด้านลำโพง เมื่อใช้ line amp แล้วจะเอาลำโพงปกติไปต่อไม่ได้แล้วเพราะอิมพีแดนซ์เปลี่ยนแล้ว  ก็ต้องแปลง โดยใช้หม้อแปลงมาต่อ หม้อแปลงที่เอามาต่อคือ matching transformer หรือ input line transformer หรือ หม้อแปลงไลน์อินพุต   ด้านเข้าจะเป็น 70 หรือ 100V ด้านออกเป็น 4-8 โอห์มกลับกันกับหม้อแปลงไลน์เอาต์พุต     ลำโพงที่มีหม้อแปลงไลน์อินพุตในตัวเลยก็เรียกว่า line speaker หรือลำโพงไลน์ ถ้าเอาลำโพงปกติ มาต่อกับ หม้อแปลงไลน์ ก็จะได้ลำโพงไลน์เหมือนกัน >> input line tr. >> speaker  = line speaker การต่อใช้งานก็ตามอุปกรณ์ที่มี เช่น 1.  amp-> output line tr. ->  สายต่อ -> input line tr. -> speaker   2.  line amp ->  สายต่อ -> input line tr. -> speaker   3.  line amp -> สายต่อ -> line speaker 4.  amp -> output line tr. ->  สายต่อ -> line speaker กรณีของ จขกท มีลำโพงปกติแล้ว  มี input line tr แล้ว  ก็เลือกว่าจะเป็นแบบ 1 หรือ 2 ถ้าซื้อ line amp มาก็ต่อแบบ 2     ถ้าใช้ amp ปกติกับ output line tr ก็ต่อแบบ 1 สะดวกสุดก็หา line amp มาต่อแบบ 2 ถ้างบถึงก็เป็น TOA (รุ่นไหน 14000 ?) ดูวัตต์ด้วยว่าเท่าไร งานนี้น่าจะ 150W ขึ้น  ยี่ห้อขึ้นต้นด้วย R  หรือ ROY** ก็พอได้ แต่ส่วนตัวชอบ NPE ตอนดูก็ขอดูด้านออกด้วยว่ามีขั้วอะไรบ้าง 4-8 โอห์ม 70-100V หรือเปล่า http://www.audiocity2u.com/Power-Amplifier/TOA/A-2120.html ส่วนเรื่อง line switching ก็คือ line amp ที่มีขั้วต่อไลน์เอาต์พุต หลายชุด เป็นชุด A, B, C ...  การต่อก็เหมือน line amp ปกติเพียงแต่มีหลายชุด แต่ละชุดสามารถสั่งปิดเปิดเสียงได้ ควบคุมแต่ละชุดได้ว่า จะให้ชุดไหนดัง หรือ ให้ดังทุกชุด  ไลน์แอมป์ปกติจะให้ดังก็ดังหมด จะหรี่ก็หรี่หมดทุกลำโพง จะปิดก็ปิดหมดเลือกไม่ได้เพราะมีชุดเดียว งานของ จขกท คงไม่ต้องการคุมโซน ก็ไม่ต้องหามาให้เปลืองเงินเพราะราคาจะสูงขึ้นอีก  นิยมใช้ในห้างหรืออาคารที่มีโซนต่าง ๆ กว้าง ๆ สงสัยก็ถามมาใหม่นะ จะบอกเท่าที่รู้ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 54 12:05:07 จากคุณ : loi - [ 25 พ.ย. 54 11:33:54 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 29 ต่อแบบนี้ จากคุณ : loi - [ 25 พ.ย. 54 12:31:42 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับ ผมไปต่างจังหวัดมาเลยไม่มีเวลามาตอบเลย ตอนนี้พอเข้าใจวิธีต่อแบบทั้งสอง หรือ 4 แบบแล้วครับ แต่วันก่อนไปบ้านหม้อ เขาเอา line amp มาต่อตรงจากช่อง 110v เข้าลำโพงที่ไม่มี tranformer ก็ยังใช้ได้!? แต่ต่อแบบนี้คือก็ต้องกลับไปต่อแบบอนุกรมเหมือนวิธีstereo amp ทั่วไปใช่ไหมครับ ก็งงว่ามันทำงานอย่างไร ก็ถ้าไหนๆจะซื้อline amp ก็ควรต่อแบบ line ด้วยถูกไหมครับ npe 10w ประมาณ 130 ส่วนเรื่อง npe หามาได้แล้วครับ ว่าวันนี้่หรือพรุ่งนี้น่าจะไปซื้อ ไม่ทราบว่ามีความเห็นไหมครับ เป็นประมาณ 200-250 watt รุ่นแพง ตัวสีขาว ปุ่มไม่เย่อะ 6000บาท โอเคไหมครับ มี output 4 ช่อง ช่องละ 50w ก็เลยงง เท่ากับว่า 1ช่องใช้ได้ 5 ลำโพงที่10w เท่ากับต้องเดิน main line อย่างน้อย 2 เส้นเพื่อให้ครบลำโพง 10ตัวอย่างนี้? อันนี้ใช่ที่คุณพูดเรื่อง "คุมโซน" หรือเปล่า แต่ว่ารุ่นนี้เลือกได้แค่ เปิดปิด 4ช่องนั้น แยกปรับระดับเสียงไม่ได้ ขอบคุณมากๆเลยนะครับ จากคุณ : snpt - [ 30 พ.ย. 54 11:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 31 NPE MA-200SL ตัวสีขาว เลือก 4 โซน สเปคที่บอกไว้ ไม่ชัดเจน   ส่วนตัวแล้วไม่เคยใช้รุ่นนี้ แต่เข้าใจว่า มี line output tr ตัวเดียว แต่ทำเป็น 4 ช่องขนานกัน แต่ละช่องมีสวิตช์ปิดเปิด  นั่่นคือ สามารถต่อลำโพงในแต่ละช่องเป็นกี่วัตต์ก็ได้ แต่รวมสี่ช่องไม่เกิน 200W เช่น กรณีของ จขกท.ต่อเมนชุดเดียวที่ช่องเดียว ลำโพง 10 ตัว ตัวละ 10W รวม 100 วัตต์ได้เลย (ถ้าไม่อยากคุมโซน) หรือเป็น 5+5 ตัว 2 โซน   1+9 ตัว 2 โซน ทั้งนี้เพราะแอมป์ราคาเท่านี้ คงไม่ทำ line output 4 ตัว หนักทั้งราคาและน้ำหนัก กรณีต่อกับลำโพงตรง ๆ ไม่ผ่าน line matching ก็ต้องคำนวณ output impedance ของ amp ที่ขั้ว 100V  กรณีนี้ ที่ 200วัตต์ จะได้ 50 โอห์ม (แรงดันออกยกกำลังสอง หารด้วย กำลังออกสูงสุด  ถ้าเป็นของ TOA จะบอกโอห์มให้ด้วยไม่ต้องคำนวณเอง) ก็ต่ออนุกรมลำโพง 4 โอห์มได้ประมาณ 12-13 ตัว (12X4=48โอห์ม) ไม่แน่ใจว่ารุ่นนี้มีช่อง 4-8 โอห์มหรือเปล่า ถ้าไม่มีจะต่อแบบโลว์อิมพีแดนซ์ไม่ได้ ต้องใช้ matching หรืออนุกรมลำโพง ที่เขาต่อให้ดูนั้น ก็ต่อได้แต่กำลังจะไม่ได้ตามสเปค เพราะ อิมพีแดนซ์ไม่แมทช์ หรือไม่ก็โดนหลอกตามสไตล์บ้านหม้อ คือ ไม่มีหม้อแปลงไลน์เอาต์พุต แต่ทำช่อง 100โวลต์ไว้ (ที่จริง 8 หรือ 4 โอห์มนั่นแหละ) เพราะหม้อแปลงไลน์เอาต์ ตัวละหลายเงินอยู่ถ้าวัตต์สูง และก็หนักด้วย แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 15:54:12 แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 54 15:48:09 จากคุณ : loi - [ 2 ธ.ค. 54 15:45:26 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 32 ในที่สุดก็ซื้อมาครบแล้วครับ เครื่องที่จะเอาตอนแรกมีปัญหา เพราะปรากฏว่า 10watt ดังไม่พอ แถมพอเริ่งดัง amp fuse ขาดเลย เหมือนกับ transformer ไม่รับ amp เลยมีปัญหา ช่าง npe เลยมาดู และแนะนำให้ รุ่น 400 watt ประมาณ 7000 กว่าบาท แล้วเค้าต่อให้ดูเลย และแนะนำให้อีกว่าถ้าส่วน outdoor เสียงดังให้ใช้ transformer 50 watt / indoor 25watt เพิ่งรู้ว่าต่อแบบนี้ได้ด้วย ก็ดีเหมือนกันนะครับ ส่วนเรื่องที่คุณ loi อธิบายมา ขอถามต่อหน่อยครับ อยากศึกษา กรณีนี้ ที่ 200วัตต์ จะได้ 50 โอห์ม (แรงดันออกยกกำลังสอง หารด้วย กำลังออกสูงสุด อันนี้งง ว่าได้ 50 มายังไงครับ แล้วก็ถ้าคำนวนแบบนี้ได้ ก็เลือกรุ่น low impedance แล้วต่อตรงได้เลย? แค่ไม่ให้ ohm ของลำโพงรวมกันแล้วเกิน? กรณีนี้นี่คือต่อแบบ stereo หรือ line ครับ ซื้อของ brand ที่บ้านหม้อนี่มีการหลอกได้ด้วยเหรอครับ!? เห็นมันก็เป็น npe เลยนะ ส่วนของผมที่ซื้อ ของหมด เค้าเลยยกมากจากศูนย์ คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ขอบคุณครับ จากคุณ : snpt - [ 5 ธ.ค. 54 01:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 กรณี line amp นั้น จะบอกกำลังงานสูงสุด กับ แรงดันออกมาให้ ค่า 100V หรือ 70V เป็นแรงดันที่กำลังงานสูงสุด ดังนั้น 50 โอห์ม จึงได้จาก 100V ยกกำลังสอง หารด้วย 200W หมายความว่า อิมพีแดนซ์ที่นำมาต่อที่ขั้ว 100V ไม่ควรน้อยกว่า 50 โอห์ม เพราะจะดึงกำลังมากกว่า 200W เช่น ถ้าโหลดเป็น  40 โอห์มที่ขั้ว 100V กำลังงานจะเป็น แรงดันยกกำลังสองหารด้วยอิมพีแดนซ์ คือ 100 ยกกำลังสองหารด้วย 40 เท่ากับ 250W มากกว่าที่ผู้ผลิตกำหนดอาจทำให้เสียหาย แต่ถ้าอิมพีแดนซ์มากกว่า จะทำให้กำลังออกน้อยกว่า เช่น โหลด 100 โอห์มต่อขั้ว 100V จะได้กำลังงานที่ 100Wเท่านั้น กรณีแอมป์ทั่วไป (low impedance) ก็เหมือนกันครับเพียงแต่เขาไม่บอกค่าแรงดันให้ แต่จะให้ค่าอิมพีแดนซ์มาแทน เราก็ต่อตรงได้เลย แต่อย่าให้ impedance รวมต่ำกว่าที่กำหนด (ไม่ใช่เกินและรวมนี่ไม่ใช่บวกกันตรง ๆนะครับ มีวิธีคำนวณ ต่ออนุกรมและขนาน) เช่น ต้องไม่ต่ำกว่า 4 หรือ 8 โอห์ม กรณีที่ต่อหลายตัวก็ต้องเอามาอนุกรมและขนานกัน แล้วคำนวณ impedance อย่าให้ต่ำกว่า (กระทู้บน ๆ มีหลายกระทู้อธิบายไว้) แต่ปัญหาของการต่อแบบนี้คือ กระแสจะสูง ถ้าลากสายไกล จะเกิด lossในสาย ทำให้กำลังปลายทางตก คือ เสียงจะไม่ออก เร่งไม่ดัง การใช้ line amp ก็เพื่อลดปัญหานี้ ส่วนที่ถามว่า การต่อแบบนี้เป็นแบบ stereo หรือ line นั้น ถามไม่ถูกเพราะไม่เข้าใจ   stereo กับ line เป็นคนละเรื่อง การต่อแบบ stereo คือการแยกสัญญาณออกเป็นซ้าย และขวา โดยแหล่งสัญญาณจะถูกบันทึกให้เป็นช่องซ้ายและขวา ดังนั้นการต่อออกจึงต้องแยกเพื่อให้เหมือนต้นฉบับ ซึ่งจะตรงข้ามกับการต่อแบบ mono คือ แหล่งสัญญาณถูกบันทึกเพียงช่องเดียว การต่อออกก็ต่อเพียงช่องเดียว หรือจะต่อออกหลายช่องก็ได้แต่ทุกช่องจะเป็นสัญญาณเหมือนกัน amp ที่มีช่องสัญญาณ 2 ช่องแยกกันจึงมักเรียกว่า สเตอริโอ  ถ้าเราเอาสัญญาณโมโนเข้าทั้งสองช่อง สัญญาณออกจะเป็นโมโนสองช่องซ้ายขวา  ถ้าเอาสัญญาณสเตอริโอเข้า สัญญาณออกจะเป็นสเตอริโอแยกซ้ายขวา ส่วนเรื่องต่อ line (กรณี line amp) เป็นเรื่องการแปลงอิมพีแดนซ์เพื่อลดปัญหา เป็น high impedance ตรงข้ามกับต่อแบบ low impedance line amp ถ้าทำสองชุดก็เป็นสเตอริโอ (โมโนไลน์สองชุดรับสัญญาณสเตอ ซ้ายขวา ออกสองชุดแยกกัน) ส่วนเรื่องขนาดวัตต์ของหม้อแปลง line input นั้นขนาดวัตต์สูงกว่า impedance จะต่ำกว่า ดังนั้นสามารถต่อผสมกันได้ทั้ง 10 วัตต์ 25 วัตต์ และ50 วัตต์ อย่าให้วัตต์รวมเกินก็แล้วกัน ถ้าต้องการปรับเสียงแต่ละจุดแยกกัน ก็หาซื้อตัวปรับมาใส่แต่ละจุด  แต่กรณีร้านอาหารไม่จำเป็นเปลืองตังเปล่า ๆ ถ้าอยากปรับง่าย ๆ ก็ต่อความต้านทานอนุกรมลำโพงเข้าไป amp มีแบรนด์ ไม่หลอกสเปค  ที่พูดถึงคือแอมป์ไลน์โนเนม บ้านหม้อ ค่าใช้จ่ายเท่าไร เกินงบหรือยัง แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 54 22:36:57 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 54 22:31:43 จากคุณ : loi - [ 5 ธ.ค. 54 22:28:57 ] Confirmed by : snpt

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีครับ ผมอ่านข้อความของคุณมานานแล้ว แล้วกะว่าจะศึกษาต่อก่อนจะกลับมาคุย แต่หลังจากนั้นก็ต้องไปทำงานต่างจังหวัดยาวเลย จนตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยว่าง ยังไม่ได้หายไปไหนนะครับ แต่รู้สึกผิดที่คุณตอบสะยาวแต่ผมหายไปเลย ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : snpt - [ 16 ธ.ค. 54 03:05:59 ]