ความคิดเห็นที่ 1 ของคุณเรียกว่าโคตะระอ่อนน้อมเลยครับ ถ้าเป็นผม.. ไม่ยอมเด็ดขาดครับ ผมไม่แคร์เรื่องความแตกต่างของอายุ ถ้าเค้าทำแบบนี้กะเรา ผมไม่มานั่งแคร์เรื่องมารยาทแล้วครับ เป็นไงเป็นกัน จะชนซึ่งๆ หน้าเลย ให้มันรู้กันไป คนเราพูดกันภาษาคน ควรจะรู้เรื่องครับ ยิ่งอายุมากแล้ว ทำตัวเป็นเด็ก แบบนี้ไม่น่าเคารพ ถ้าพูดกันตรงๆ ไม่รู้เรื่อง ก็หักดิบกันไปเลย ให้มันรู้กันไป ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ถ้าคนส่วนใหญ่เป็นคนที่มีปัญญา เค้าจะรู้เองว่าใครผิดใครถูก ถ้าเรามั่นใจว่าเราไม่ผิด และอยู่ในสังคมที่ใช้ปัญญา คนอื่นจะมาอยู่ข้างเราเอง แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 50 00:14:37 จากคุณ : Angos - [ 28 ก.ย. 50 00:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยินดีด้วยครับ อย่าแก้ปัญหาด้วยการเดินหนีเลยครับ สงสารน้องเค้า สงสารตัวเรา จากคุณ : มู้ดดี้ แม้ดอาย - [ 28 ก.ย. 50 02:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปัญหาเกิดจากคุณกับผู้ร่วมงานของคุณ   คุณมีเหตุผลของคุณ  เขาก็มีเหตุผลของเขา แต่มีข้อมูลจากคุณเพียงด้านเดียว  อีกด้านไม่ทราบ.........ที่ดีที่สุดคุณไปทบทวนดูว่าเหตุของปัญ หาคืออะไร        ........................           น้องร้องไห้มาฟ้องแม่ว่าพี่รังแกแม่คว้าไม้เรียวตีพี่โดยไม่สอบถามทั้งคู่ว่าเหตุเกิดจากอะไรคุณว่าเป็นธรรมไหม จากคุณ : ตาเป๋า - [ 28 ก.ย. 50 07:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองนั่งคิดถึงเหตุ น่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง 1. เวลาประชุมเรื่องงาน ผมก็จะตั้งคำถามว่า มีเหตุผลในการทำแบบที่เสนอหรือไม่อย่างไร ทำไมจึงไม่ทำแบบนี้ แล้วก็จะอธิบายว่าที่ผมคิดแบบนี้....เพราะอะไร หากผมคิดว่าแบบของผมไม่มีเหตุผลมากพอ...ผมก็จะยอมรับด้วยดี ....แต่ต้องให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ แบบระดมความคิดเห็นได้ 2. ผมจะเป็นคนตรงไปตรงมา แบบว่าหากผมไม่เห็นด้วย ก็ต้องให้ผมแสดงความคิดเห็นได้....ประเด็นนี้ทำให้ผมเป็นคนก้าวร้าว 3. แต่ถ้าผมไปทำงานร่วมหน่วยอื่น....ปัญหาก็มีครับ แต่เรื่องของงานเสียมากกว่า แล้วผมก็สบายใจที่ทำงานแบบนี้ ให้เหตุผลในงาน....จบแล้วก็จบ 4. จึงเป็นไปได้ที่บุคลิกภาพระหว่างผมกับผู้ร่วมงานคนนี้มีปัญหา......เคยลองทำความเข้าใจกันแล้วครับ บอกว่าที่ผมไม่ชอบแบบนี้...เพราะอะไร แต่ไม่ได้ผลครับ การทำงานเป็นแบบไม่เอาผม เอาแต่อีกคน ทั้งๆๆ ที่เป็นหน่วยเดียวกัน ผมจึงยอมรับว่าดีแล้วไม่ต้องเอาผม ผมหลีกเลี่ยงทำงานร่วมกัน ........ผมยังผิดผลาดอีกหรือไม่อย่างไรครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 28 ก.ย. 50 08:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเจออยู่นี่ล่ะครับ  เรื่องธรรมดาครับ จบโครงการ เปลี่ยนทีม จากคุณ : คุณฉงน - [ 28 ก.ย. 50 12:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม สรุปคือเขา (ฝ่ายที่ขัดแย้ง) ไม่เชื่อใน ความรู้ของคุณครับ จากคุณ : อย่าโกรธผมนะครับ (อีคิวศูนย์) - [ 28 ก.ย. 50 14:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ประเด็นไม่เชื่อความรู้ของผม...ต้องยอมรับ แต่ทำไมผมสามารถทำงานร่วมกับหน่วยอื่นๆ  ได้ เป็นหน่วยนอกด้วย จึงเห็นว่าจะมองแค่ไม่เชื่อความรู้ความสามารถของผมเพียงอย่างเดียว...อาจไม่ถูกไปเสียทีเดียว....แต่ต้องขอบคุณคุณอีคิวศูนย์ที่มองอย่างตรงไปตรงมา  ขอบคุณครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 28 ก.ย. 50 18:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คนฉลาดจะเปิดรับฟังความเห็นของผู้อื่นเสมอ คนที่คิดว่าอีกฝ่ายโง่ และพยายามปิดกั้น โง่กว่า จากคุณ : Angos - [ 29 ก.ย. 50 15:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 #7 ดังนั้นคุณควรสู้ด้วยการมีผลงานดีกว่า เช่น การตีพิมพ์เยอะกว่า (ถ้าคุณเป็นนักวิจัย) impact factor สูงกว่า น่าจะช่วยได้บ้าง นะครับ (แค่มุมมองหนึ่งเท่านั้น) จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 29 ก.ย. 50 17:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม  ผมผ่อยคลายขึ้น โดยผมตัดสินใจแล้วว่า....ไม่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทางออกดีที่สุด สิ่งเดียวที่ทำได้คือการมี connection จากหน่วยนอกไปก่อน...เนื่องจากผมเพิ่งจบ การของบประมาณที่จะซื้อเครื่องมือ คงค่อยๆ เป็นไป ฝึกมือไปก่อน โดยอาศัยช่องทางจากแล็ปข้างนอกไปก่อน ส่วนน้องที่อยู่ห้องทำงานเดียวกับผม ผมต้องทำใจที่น้องเค้าอาจทำตัวไม่ถูก เค้าอยากได้ความเห็นจากผม ...เค้าจะถามเอง ...ผมก็พร้อมจะบอก...เอาแบบนี้หละกันครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 29 ก.ย. 50 22:42:57 ]