ความคิดเห็นที่ 1 พิธีเบิกเนตร มีพื้นฐานมาจากเทวศาสตร์ ไม่ใช่พุทธศาสตร์ค่ะ คือเป็นความเชื่อที่ตรงกันของหลายๆ ชนชาติที่บูชาเทพเจ้า และสร้างเทวรูปขึ้นเป็นรูปเปรียบ หรือรูปสมมุติของเทพเจ้า เมื่อสร้างเทวรูปขึ้นแล้ว ก็มีคติว่าจะต้องทำให้เทวรูปนั้น "มีชีวิต" หรือมีอวัยวะที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เปรียบประดุจร่างกายของมนุษย์เราที่มีอาการ ๓๒ เป็นกลไกรองรับการควบคุมของจิตวิญญาณ โดยที่เทวรูป ก็เหมือนร่างกายมนุษย์ และเทพเจ้า ก็เหมือนจิตวิญญาณค่ะ เมื่อจะทำให้วัตถุที่สร้างขึ้นเป็นรูปเหมือนเทพเจ้า มีชีวิต ก็ต้องใช้คาถา บทสวดมนต์ เครื่องมือ และพลังจิต สำหรับ "เรียก" แต่ละอวัยวะของเทวรูป ให้ทำงานได้เหมือนมีชีวิตจริงๆ นอกจากเรียกนาม คือการบัญญัติชื่อให้เทวรูปนั้นๆ แล้ว วิธีการที่ใช้กันทั่วไปก็คือ ใช้อุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งนำไปจุ่มน้ำมนต์ หรือน้ำมันหอม หรือของเหลวอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว นำไปแตะหรือวนที่อวัยวะต่างๆ ของเทวรูป ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก ตา จมูก ปาก หน้าอก (หัวใจ) มือ ฯลฯ พร้อมกับการภาวนาหรือประจุคาถาสำหรับเรียก "อาการ" หรือปลุกอวัยวะเหล่านั้นให้ทำงานขึ้นมา อันเป็นวิธีทางเทวศาสตร์ค่ะ ดังนั้นเทวรูปของหลายๆ ชนชาติในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ เมโสโปเตเมีย กรีก-โรมัน สแกนดิเนเวีย อินเดีย ต่างก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ในการเทวาภิเษกมาแต่เดิม เพียงแต่ว่า การที่จะปลุกหรือเรียกอวัยวะต่างๆ นั้น เขาทำกันแบบอนุโลม คือเรียกเฉพาะอวัยวะที่สำคัญเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่เรียกกันไปหมดทุกอวัยวะ พระพุทธรูปเอง ก็เกิดจากแนวคิดแบบเทวนิยม คือสร้างขึ้นครั้งแรกเพื่อเป็นรูปเปรียบของพระพุทธเจ้า และก็สร้างตามหลักเทวศาสตร์กรีก ดังนั้น พระพุทธรูปเมื่อเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก ก็เปรียบเสมือนเป็น "เทวรูป" ของพระพุทธเจ้า เพียงแต่ไทยเราไม่ถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นเทวะ เราจึงเรียกรูปเปรียบของพระองค์ว่า พระพุทธรูป ค่ะ เมื่อพระพุทธรูป เกิดจากเทวศาสตร์กรีก จึงมีพิธีกรรมในการเรียกอวัยวะ เรียกนาม เรียกอาการต่างๆ ติดมาด้วย แต่เมื่อมาถึงไทยเรา พิธีกรรมเหล่านี้ ก็เหลือเพียงการเบิกเนตรเท่านั้นค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 31 พ.ค. 51 23:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พิธีกรรมการเบิกเนตรพระพุทธรูป โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ ๑) ทำน้ำมนต์ธรณีสารปะพรมให้ทั่วองค์พระพุทธรูป ที่จะทำการเบิกเนตร รวมทั้งปะพรมผู้ที่จะทำการเบิกเนตรเสียก่อน ๒) เสกดินสอที่จะใช้เป็นอุปกรณ์ในการเบิกเนตร คือดินสอแบบโบราณ ด้วยคาถานี้ ๓ คาบ : สะหัสสะเนตโต พุทโธ ทิพจักขุง วิโสธายิฯ ๓) วงดินสอที่พระเนตรข้างขวาของพระพุทธรูป เสกด้วยคาถานี้ ๓ คาบ : พุทโธเนตเต อิสะวาสุ ปะนะชายะเต จงบังเกิดเป็นพระเนตรเบื้องขวา อิทัง รูปัง อันว่ารูปนี้ สิชฌะติ อิติ ย่อมสำเร็จด้วยประการฉะนี้ฯ ๔) วงดินสอที่พระเนตรข้างซ้ายของพระพุทธรูป เสกด้วยคาถานี้ ๓ คาบ : พุทโธเนตเต มะอะอุ ปะนะชายะเต จงบังเกิดเป็นพระเนตรเบื้องซ้าย อิทัง รูปัง อันว่ารูปนี้ สิชฌะติ อิติ ย่อมสำเร็จด้วยประการฉะนี้ฯ ถ้าจะทำให้สมบูรณ์กว่านี้ ควรมีพระสวดชัยมงคลคาถา และสวดบทพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร ก็จะถือว่าเป็นองค์พระพุทธปฏิมากรที่สมบูรณ์ค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 1 มิ.ย. 51 00:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอแบ่งปันเพื่อนพันทิป ผมมีอุปชาย์เป็นพระเจ้าคุณ พระเทพญาณวิศิษฐ์ ท่านได้ให้ความกระจ่างกับเรื่องนี้ไว้ก่อนท่านละสังขาร"พิธีเบิกเนตร" หลวงปู่เปลี่ยนท่านว่า  พระพุทธท่านตาดีกว่าพวกเราเสียอีก จะต้องไปเบิกเนตรให้ท่านทำไม จากคุณ : ดาญาณ - [ 1 มิ.ย. 51 12:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ท่านลองดูข่าวสิครับ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเสด็จไปงานพิธีเบิกเนตรต้้งมากมายหลายงาน จากคุณ : AnalystX - [ 1 มิ.ย. 51 12:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ว่าสิ่งที่หาได้ยากในโลกนั้นมี 4 อย่าง คือ 1. การเป็นมนุษย์ กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ. 2. การอุบัติของพระพุทธเจ้า กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท 3. การดำรงชีพของมนุษย์ กิจฺฉํ มจฺจานชีวิตํ และ 4. คือการได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ จากคุณ : ดาญาณ - [ 1 มิ.ย. 51 17:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "หลวงปู่เปลี่ยนท่านว่า  พระพุทธท่านตาดีกว่าพวกเราเสียอีก จะต้องไปเบิกเนตรให้ท่านทำไม" หลวงปู่ท่านพูดเป็นปรัชญาน่ะค่ะ แต่ข้อเท็จจริงคือ พระพุทธเจ้าก็พระพุทธเจ้า พระพุทธรูปก็พระพุทธรูป เป็นคนละส่วนกัน ไม่ควรนำมาปะปนกัน พระพุทธรูปเป็นเพียงรูปสมมุติ หรือรูปเปรียบของพระพุทธเจ้า เป็นเพียงสัญลักษณ์สำหรับเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธองค์เท่านั้น หาใช่พระพุทธองค์เองไม่ ได้ฟังพระเถราจารย์ในอดีตหลายท่าน ชอบสอนแนวนี้ คือเอาพระพุทธเจ้ากับพระพุทธรูปมาปนกัน ยกพระพุทธรูปเป็นเครื่องสอนโดยแฝงปรัชญา ก็เป็นคำสอนที่ดี หากตีความได้ว่าท่านต้องการบอกอะไรเรา ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่สิ่งที่ควรเอามาอ้างเวลาที่ใครจะทำอะไรกับพระพุทธรูป ในด้านพิธีกรรม เพราะพระพุทธรูป เป็นเรื่องของวัฒนธรรม และพิธีกรรม เป็นศาสนวัตถุ ซึ่งต้องมีคติความเชื่อที่ผูกพันกับคนจำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจุดประสงค์ก็เพื่อสืบพระศาสนา พิธีกรรมใดๆ ที่กระทำกับพระพุทธรูป ล้วนค้นคิดขึ้นมาโดยคนที่มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ที่แตกต่างออกไปจากพุทธศาสนา แต่เป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และ คิดอยู่เพียงว่าจะทำอะไรซักอย่าง เพียงเพื่อให้พระพุทธรูปองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์ ดำรงอยู่เป็นเครื่องสืบพระพุทธศาสนาไปได้นานเท่านาน ไม่เกี่ยวกับพระพุทธองค์แน่นอนค่ะ เพราะไม่มีใครในโลกนี้สามารถเบิกเนตรพระพุทธองค์ได้ ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี คุณดาญาณจะรู้หรือไม่ เราไม่ทราบ แต่คนส่วนใหญ่รู้ดี คุณดาญาณ ไปแก้ข้อสงสัยในกระทู้ที่กล่าวถึงคุณโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ที่มีใครอ้างว่าเป็นพระเยซูมาเกิดเป็นพระศรีอาริย์ก่อน ดีมั้ยคะ? จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 1 มิ.ย. 51 22:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาหาความรู้ด้วยคนครับ ความเห็นแตกต่างแต่ไม่จำเป็นต้องแตกแยกครับ จากคุณ : ltf06 - [ 2 มิ.ย. 51 11:21:03 ]