◀ Previous Next ▶ Up ▲

witpoko.com


    * * * สังคมอุดมอบายมุข คือ ดรรชนีชี้วัดความพ่ายแพ้ของพลังคุณธรรม * * *

    เขียนโดย ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา, สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ    


    "อบายมุข" ถือเป็นสิ่งต้องห้ามในทุกสังคม ทุกศาสนาและความเชื่อ ถึงแม้อบายมุขจะควบคู่กับยุคแรกๆ ของการมีอยู่ของสังคมมนุษย์ แต่ประชาคมโลกในทุกยุคทุกสมัยต่างเห็นพ้องต้องกันในการกำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคำว่า "อบายมุข "

    "อำนาจแห่งอบายมุข" และ "พลังแห่งคุณธรรม" จึงเปรียบเสมือนวงล้อชีวิตที่มีการแข่งขันช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบของทั้งสองฝ่ายโดยที่สังคมมนุษย์จะเป็นพลังสำคัญในการกำหนดให้ทั้งสองขั้วดังกล่าวเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้หรือประสบชัยชนะ

    ยามที่มนุษย์ยึด "สังคมแห่งปัญญาและคุณธรรม" เป็นหลักในการดำรงชีวิต "อำนาจแห่งอบายมุข" ก็จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แต่เมื่อใดที่คุณธรรมเป็นเพียงแค่เครื่องมือให้กับลัทธิวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ศาสนาและจริยธรรมก็จะเป็นเพียงคาถาที่มีการกล่าวถึงในเวทีสัมมนาทางวิชาการหรือเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาของบทเทศนาธรรมเท่านั้นเอง

    การที่จะสร้าง "สังคมอุดมคุณธรรม" ไม่ได้หมายความว่าสังคมจะต้องปลอดอบายมุขอย่างหมดจด แต่ทุกองคาพยพในสังคมโดยเฉพาะอำนาจรัฐและกลุ่มชี้นำสังคมจะต้องใช้ความพยายามอย่างแรงกล้าในการรักษา "พลังคุณธรรม" ให้อยู่เบื้องบนของวงล้อชีวิตพร้อมเป็นหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนสังคมที่มีวินัยและสร้างคุณธรรมของคนในชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    เป็นที่ยอมรับกันว่าปัจจุบัน สังคมเกิด “ภาวะพร่องทางจิตวิญญาณ” ขั้นรุนแรง ลัทธิบูชาวัตถุกำลังซึมซับเข้าไปในวิถีคิดของผู้คนอย่างน่าสะพรึงกลัว ถึงขั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติ และมองสิ่งอบายมุขว่า “เป็นความชั่วร้ายที่จำเป็น” เลยทีเดียว

    สิ่งหนึ่งที่ได้กลายเป็น ความชั่วร้ายที่จำเป็นในสังคมปัจจุบัน คือการพนันในทุกรูปแบบแล้วแต่จะเรียกขาน

    สถิติต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันทั้งใต้ดินหรือบนดิน เป็นงวดหรือเทศกาล เจ้ามือหรือลูกมือ ออนไลน์หรือล้อมวง อาชญากรรมหรือความโหดร้าย 2 ตัวหรือ 3 ตัว รายได้หรือความสูญเสีย หรือแม้กระทั่งจำนวนผู้คนที่พึ่งพาอาศัยการพนันในการเลี้ยงชีพ ล้วนแล้วแต่สะท้อนภาพของความล้มเหลวของระบบคุณธรรมและความพ่ายแพ้ของพลังศาสนาในการที่จะเข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตของประชาชน

    ในบางช่วงเวลาของบางสังคม แม้แต่อำนาจรัฐและพลังศาสนายังต้องยอมศิโรราบต่อกระแสความต้องการของอิทธิพลแห่งตัณหาและอารมณ์ที่ไม่มีสิ้นสุดของมนุษย์

    อิสลามถือว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งอบายมุขทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่างก็พึงได้รับส่วนแบ่งของบาปอย่างเท่าเทียมกัน เป็นต้นว่า ผู้กำหนดนโยบาย ผู้ร่างกฎหมาย ผู้สนับสนุน ผู้ประกอบธุรกิจ เสมียนและเจ้าหน้าที่หรือแม้กระทั่งผู้พึ่งพาอาศัยในการเลี้ยงชีพตลอดจนทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมกับอบายมุข ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ก่ออาชญากรรมที่ต้องได้รับผลบาปจากอัลลอฮฺโดยไม่มีการยกเว้น คำสั่งห้ามในอิสลามจึงเป็นคำสั่งห้ามที่ครบวงจรและครอบคลุมตั้งแต่ต้นเหตุ กลางเหตุและปลายเหตุ ทุกบทบัญญัติที่เป็นคำสั่งห้ามของอิสลามล้วนแล้วแต่เป็นภัยและสร้างความหายนะแก่ชีวิตมนุษย์ทั้งโลกนี้และโลกอาคีเราะฮฺ (โลกหน้า)

    สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อห้ามในอิสลามและถือเป็นเครื่องมืออันมีประสิทธิภาพของเหล่าชัยฏอน(มารร้าย)ที่สามารถสร้างความวุ่นวายในสังคมอย่างไม่รู้จักจบสิ้นก็คือ การพนัน

    มุสลิมผู้ทรงคุณธรรมจึงไม่อาจหาญฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺด้วยการร่างพ.ร.บ.การพนันให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเด็ดขาด เช่นเดียวกันกับมนุษย์เรืองปัญญาที่ไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนการออกกฎหมายที่สร้างความชอบธรรมสิ่งที่เป็นข้อห้ามของทุกศาสนาอย่างแน่นอน

     
     

    จากคุณ : Crescent ) - [ 28 ก.พ. 50 10:43:01 ]

 
 



กระทู้ยอดนิยม