ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยครับ จากคุณ : ธ.ส. (ธ.ส.) - [ 21 เม.ย. 47 11:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เขาไม่ได้บริจาคเงินให้พระครับ เขาให้วัดไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าซ่อมแซมอาคารสถานที่ จากคุณ : . - [ 21 เม.ย. 47 12:39:41 A:10.212.2.139 X:203.149.16.204 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องถามเจตนาก่อนว่า เจ้าของกระทู้ต้องการอะไร.. จากคุณ : งงกับกระทู้ - [ 21 เม.ย. 47 12:59:16 A:203.113.41.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 แปลงร่าง!!!! ไอ้มดเอ็กซ์ สกายคิก เจ้าจองกระทู้ !!! จากคุณ : บอกอกูรู - [ 21 เม.ย. 47 13:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กบที่อยู่ในกะลา แต่แสดงความเห็นเกี่ยวกับโลกภายนอก ก็แค่นั้นแหละ อย่าว่าแต่ศาสนาพุทธเลย ศาสนาอะไรก็เข้าไม่ได้ซักอย่าง จากคุณ : blue_sea - [ 21 เม.ย. 47 14:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กระทู้แบบยี้ หากคิดให้ดี น่าจะได้ทางออกที่ดี สำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น วัด พระ และฆราวาส ปัญหา พระรับเงินไม่ได้ แต่วัดมีค่าใช้จ่าย จะหาเงินที่ไหนหากไม่รับบริจาค ทางออก เราควรมีองค์กร ใดหรือไม่ที่คอยดูแล เรื่องพวกนี้ โดยที่ทุกฝ่ายก็สบายใจ ปัจจุบัน เรามีมักทายก ที่ดูแลเรื่องเงินของวัด พระบางรูปมีบัญชีส่วนตัว โดยมีแหล่งเงินมาจากจากเงินบริจาค นำเงินไปใช้ใน สิ่งที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เช่นซื้อ ของหรูๆ โดยไม่มีใครตรวจสอบ ทำอย่างไร และระบบแบไหน ที่จะสามารถทำให้ ทุกอย่างโปร่งใส ยุติธรรมและสบายใจกันทุกฝ่าย จากคุณ : ฟฟฟ - [ 21 เม.ย. 47 14:45:43 A:140.254.114.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระสมัยนี้รับซองกันเป็นว่าเล่น แล้วเอาไปซื้อรถแพงๆ ซื้อสร้อยทองให้สีกา มีแต่กบในกะลาความเห็นที่ 5 นี่แหละที่ไม่รู้เรื่อง อ้างว่าวัดมีค่าใช้จ่าย เท่าไหร่กันเชียว? รัฐบาลออกให้เท่าไหร่? เหลือเดือนๆนึงเท่าไหร่? ส่วนที่เหลือหายไปไหน? จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 21 เม.ย. 47 14:50:16 A:202.59.255.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้บัตรเครดิตสิ ไม่อาบัติ(รึเปล่า) จากคุณ : ทองใบ - [ 21 เม.ย. 47 15:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต้องไปดูพระธรรมวินัยครับ ผมวิจารณ์อย่างงู ๆ ปลา ๆ นะ สมัยก่อนพระพุทธเจ้าบัญญัติศีลข้อนี้ไว้เพราะ สมัยก่อนเงินไม่ใช่ปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีพหรือการปฏิบัติศาสนกิจ พระที่รับเงินแม้แต่เฟื้องเดียวก็ไม่สมควร ชาวบ้านตำหนิ เพราะไม่จำเป็น สมัยนี้เงินมีความจำเป็นต่อพระในระดับนึง เช่นได้รับกิจนิมนต์แต่ไม่มีคนมารับต้องเดินทางด้วยตนเองก็ต้องใช้เงิน เจ็บป่วยเล็กน้อย หยูกยาก็ต้องใช้เงิน (แต่ก่อนใช้น้ำปัสสาวะตัวเองหมักสมุนไพรแล้วดื่ม) ความจำเป็นเรื่องเงินมีในระดับหนึ่ง ความบกพร่องอยู่ที่คณะสงฆ์ครับ ผมรู้สึกว่าคณะผู้ปกครองสงฆ์ของเราอ่อนแอมาหลายร้อยปีแล้วหละ คือไม่ยอมที่จะสังคายนาพระธรรมวินัยให้สอดคล้องกับยุคสมัย อะไรที่ยึดถือกันมากว่า 2500 ปีก็ยังยึดถืออยู่ ท่องจำกันได้หมดว่าอะไรที่ห้ามบ้าง แต่หลายข้อมันแย่แล้ว เช่นห้ามพรากของเขียวแบบนี้ มันก็ตกยุคไปแล้ว ผมอยากเห็นคณะผู้ปกครองสงฆ์ที่มีปัญญาและมีความกล้าหาญพอที่จะแก้ไขพระธรรมวินัยให้สอดคล้องกับสภาพสังคม เพื่อเป็นการพัฒนาพระพุทธศาสนาของเราให้มั่นคงสืบไป จากคุณ : ขุนอิน - [ 21 เม.ย. 47 18:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ควรถวายแค่ปัจจัย 4 ที่จำเป็นแก่พระจริงๆ อย่าสร้างมารให้รบกวนจิตใจพระท่านเลย ท่านมาบวชเพื่อละกิเลส สาธุชนอย่าเอากิเลสไปเสนอท่าน จากคุณ : ธ.ส. (ธ.ส.) - [ 21 เม.ย. 47 18:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็คิดเช่นนั้น พระ ถ้ายังต้องใช้เงิน ถ้ายังต้องนอนแอร์ ถ้ายังต้องมีรถส่วนตัว ก็คงละซึ่งกิเลสได้ยาก ถายปัจจัยในการยังชีพก็เพียงพอ ค่าน้ำ ค่าไฟ การประชา กับการไฟฟ้า ก็บริจาคไปสิครับ มันไม่ได้มากมายอะไรหรอก ไอ้ทีมากเพราะ กุฏิพระ แต่ละกุฏิ มีคอม มีทีวี มีวีซีดี มีวิทยุ กันทั้งนั้น ค่ำๆ ก็นั่งเชียร์บอลยูโร อีกตั้งหาก.. พระเกจิ พระประพฤติดี จะเห็นก็มีแต่ในสมัยโบราณ ถ้ายุคนี้ก้ระดับ 60 ปีกันทั้งนั้น อีกหน่อย ไม่ต้องมีใครมาทำลายหรอก พระ จะทำลาย ศาสนาเองนี่หล่ะครับ ยิ่งเด็กยุคนี้ ยิ่งเห็นพระ ก็คือพระ หามีศรัธาใดๆไม่ ไหว้พระต้องไหว้ ไปวัดเพราะต้องไปวัด คำนึงถึงกันให้มากๆนะครับ อันตรายครับ จากคุณ : ธนูไฟ - [ 21 เม.ย. 47 20:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เคยอ่านพระไตรปิฎกกันหรือเปล่า ก่อนจะเขียนอะไรลงไป ถ้าอยากอ้าง มันก็อ้างไปได้เรื่อยๆ เพราะพระวินัย กำเนิดขึ้นมาสองพันกว่าปี จะให้เขียนอ้างถึงเดี๋ยวนี้ไม่ได้หรอก ดูจากเจตนาก็รู้ จุดมุ่งหมายของสงฆ์คือละกิเลส ถ้ายังรับเงินรับทอง รับที่ดิน (ธรรมกลาย) สร้างสารพัด วัตถุมงคล (หรืออัปมงคลกันแน่) มันทำให้กิเลสน้อยลงไปหรือ? จากคุณ : .eAT - [ 21 เม.ย. 47 21:50:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มันอยู่ที่คน ศาสนาก็บอกอยู่แล้วบางข้ออาจจะไม่สามารถครอบคลุมไปได้หมด จริง แต่ถ้าคนมีสำนึกมันก็จะไม่มีปัญหา อย่างเช่น พฤติกรรมของพระบางอย่างอาจจะไม่ห้ามไว้ แต่ถ้ามีลักษณะโลกวชช โลกติเตียนก็ไม่สมควรทำ เขาก็ห้ามไว้ คราวนี้มันก็อยู่กับคนหล่ะ พระที่ดี ๆ ๆ ศึกษาพระรรมวินัยก้มี เยอะแยะ ได้สักแต่ว่าบวชก็เยอะ เหลือบก้มี ก็ว่าเป็นกรณี ๆ ไป เรื่องบางเรื่องเถียงกันลกแตกก็ไม่จบ อย่างเรื่องสร้างศาสนาสถานควรสร้างหรือไม่ ถ้าเป็นพระสายอรัญวสีก็คงว่าไม่น่าสร้าง แต่ขณะเดียวกันการสร้างศานสถานที่เห็น ๆ อยู่มันก้เป็นการสนับสนุนศาสนาให้คงอยู่ส่วนหนึ่ง เหมือนพระพุทธรูปน่ะ ควรมีหรือไม่ควรล่ะ อย่าลืมว่าสมัยก่อนคนจะศรัทธาไม่ศรัทธามันก็อยู่กับความอลังการยิ่งใหญ่าของศานาด้วย ไม่งั้นพออินเดียเปลี่ยนเป็นฮินดู หรืออัฟกันเปลี่ยนเป็นอืสลามจะต้องทำลายศานสถานที่เคยมีเยอะแยะทำไม เขียนซะยาว สรุปก็คือ ทางสายกลางน่ะดีสุด จากคุณ : blue_sea - [ 21 เม.ย. 47 22:10:35 ]