http://www.bangkokbiznews.com/bknews/read.php?newsid=1204
....อย่างไรก็ตาม นายห้างทอง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2542 ภายในบ้านธรรมวัฒนะ เลขที่ 299/9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจได้สรุปสำนวนการสอบสวนว่า นายห้างทอง เสียชีวิตเนื่องจากยิงตัวตาย ส่งผลให้ญาติไม่สามารถขอพระราชทานเพลิงศพได้ ....
http://www.bangkokbiznews.com/weekend/20030903/wec33.shtml
...ในประเด็นสุขภาพ จรรยาบอกว่า แม้ พ.อ.ประจักษ์บ่นปวดหลังให้ได้ยินอยู่เรื่อย แต่ทุกคนก็ให้กำลังใจว่าเราต้องสู้ ส่วนจะเป็นมะเร็งหรือไม่ คิดว่าไม่ใช่ดังคำยืนยันของหมอ
"ท่านเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล เราเคยบอกให้รักษาให้หายเลยแล้วค่อยกลับบ้าน ท่านไม่ยอม เมื่อไม่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร บางครั้งก็นั่งกลุ้มใจ"
นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง นายทหารนักบู๊อีกคน บอกว่า ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต 1 วัน พ.อ.ประจักษ์ ได้เชิญนายทหารคนสนิทหลายคนไปที่บ้านพัก เพื่อร่วมเป็นพยานเกี่ยวกับเรื่องพินัยกรรมของตน
เชื่อว่าในเร็ววันนี้ทางพนักงานสอบสวนคงได้ข้อสรุปถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของ พ.อ.ประจักษ์ ก่อนหน้าวันพระราชทานเพลิงศพ 17 กันยายน 2546 เวลา 17.00 น. ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร.....
ทำไมเหตุการณ์คล้ายๆกันผลลัพท์กลับไม่เหมือนกัน
ถ้าจะมองว่า พ.อ.ประจักษ์ เคยเป็นข้าราชการทำคุณแก่ชาติ (ไม่รวมที่ก่อเรื่องปฎิวัติ) นายห้างทอง ก็เคยเป็นข้าราชการทำคุณแก่ชาติไม่แพ้กัน ต่างกันเพียงฝ่ายหนึ่งเป็นข้าราชการประจำที่คิดจะโตเร็วทางลัดและสนใจในเรื่องการเมือง อีกฝ่ายเป็นนักธุรกิจที่หันมาสนใจการเมือง
สรุปแล้ว แม้แต่กฏเกณฑ์แบบนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความเหลือมล้ำทางสังคม
จากคุณ :
สรุปมีกฏเกณท์อย่างไร
- [
15 ก.ย. 46 17:14:41
A:140.254.114.140 X:
]