◀ Previous Next ▶ Up ▲

witpoko.com


    ร้านแว่นตาที่แย่ที่สุดในท่าพระจันทร์

    ใครที่อยู่ที่ธรรมศาสตร์ หรือว่าอยู่แถวๆท่าพระจันทร์ คงจะทราบดีว่าแถวนั้นมีร้านแว่นตาอยู่มาก ดิฉันได้ไปเจอดีมาแล้วกับตัว ทั้งๆที่เป็นร้านที่สวยที่สุดในย่านนั้น

    ร้านแต่งด้วยโทนสีชมพู มีไฟประดับโทนส้ม อาคารห้องเดียว เจ้าของร้านเป็นผู้หญิง และชาย คนจีน ท่าทางใจดี พูดเพราะ ดิฉันเอากรอบแว่นแบบที่ไม่มีกรอบล้อมรอบ (ท่านึกไม่ออก ให้นึกถึงแว่นที่ไม่มีกรอบน่ะค่ะ) ซึ่งหมายถึงต้องเจาะเลนส์เพื่อใช้น็อตยึด เจ้าของร้านทั้งสองสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะทำให้เนี๊ยบ พร้อมกับเสนอเลนส์ราคาแพงอย่างดี ให้ดิฉัน ด้วยความเชื่อใจ ดิฉันก็ตัดสินใจตามที่เขาแนะนำ

    แต่ผลกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ในวันที่ไปรับแว่นตาดิฉันพบว่า มีรอยกาวตราช้างแปะอยู่ที่สกรูยึดเลนส์ คุณลองคิดดูสิคะว่าแว่นไม่มีกรอบซึ่งควรจะโชว์เลนส์สีใส กลับมีรอยกาวตราช้างมันน่าเกลียดแค่ไหน ดิฉันด้วยความสงสัยแกมไม่พอใจ เลยดึงดันให้เขาเปลี่ยนเลนส์เพราะว่ามันเป้นรอยกาว เขากลับบอกว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เลนส์เป็นรอย แต่อยู่ที่ความห่วยของกรอบแว่นของดิฉัน ซึ่งทำให้เขาต้องใช้กาวยึด เขาไม่ยอมรับผิดชอบ กลับบอกว่าเขาทำให้เต็มที่แล้ว ดิฉันจะให้เขาชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่เขากลับด่าฉันเปิงแล้วไล่ฉันออกมา

    ดิฉันโมโหมากจึงกลับไปหาพี่อาร์ต ที่ร้านแถวลิโดซึ่งเป็นร้านที่ดิฉันซื้อกรอบแว่นด้วย พี่เขาตกใจมากพร้อมกับพาดิฉันไปร้านตัดแว่นอีกร้านในสยาม เพื่อดูว่าทำไมร้านท่าพระจันทร์จึงใช้กาวอุด เมื่อแกะออกมาพบว่าปัญหาไม่ได้อยู่ตรงเลนส์อย่างที่ดิฉันคาดไว้แต่แรก แต่ปัญหาคือ น็อตตัวผู้ที่ไขหักกลางติดกับตัวสันจมูก !!! ซึ่งช่างที่ท่าพระจันทร์เป็นคนทำชุ่ย ก็เลยเอากาวตราช้างมาโปะติดกับเลนส์แทน คุณนึกออกใช่ไหมคะว่า กาวตราช้างแม้จะแน่นแต่ก็มีคุณสมบัติอย่างนึงคือ กรอบและล่อนง่าย ดิฉันไม่อยากคิดเลยว่าถ้าถูกเหงื่อซัก 2-3 ครั้งแว่นดิฉันจะเป็นอย่างไร พี่อาร์ตเจ้าของร้านกรอบแว่นที่ดิฉันซื้อด้วยจึงโทรไปถามบริษัทแว่นให้ว่าพอจะมีตัวอะไหล่เปลี่ยนไหม พร้อมกับโทรไปหาไอ้ช่างเจ๊กนั่น ไอ้ช่างเจ๊กมันถึงยอมรับ พี่อาร์ตบอกว่า" คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายให้น้องเค้า เพราะมันเคลมไม่ได้ เพราะคุณเป็นคนทำเสียเอง ไม่ได้เสียจากบริษัท " ช่างเจ๊กท่าพระจันทร์เลยยอมจ่ายเงินค่าอะหลั่ยให้ดิฉัน 800 บาทพร้อมกับทำหน้าเสียไม่ได้ พร้อมกลับรอยแสยะยิ้มของภรรยาเค้า ถึงกระนั้นก็ยังให้ดิฉันเซ็นรับเงินด้วยความระวังตัวเอง ทำไมเวลาตัดแว่นไม่ระวังแบบนี้บ้างนะ

    ดิฉันทราบว่าการตัดแว่นนั้นต้องอาศัยความชำนาญ และความประณีตมากๆ แต่สิ่งที่เจอวันนี้ กับเงินที่ได้คืนมา 800 เทียบกับความรู้สึกที่เสียไปไม่ได้เลย คุณๆที่ใส่แว่นก็คงทราบว่าแว่น 1 อันเราใช้กันเป็นปีๆ ดิฉันได้ฤกษ์ตัดแว่นก็เพราะอาทิตย์หน้าจะไป Cornell แล้ว ก็อยากได้แว่นกิ๊บเก๋ซักอัน แต่เป็นไงละคะท่านผู้ชม

    เลยอยากจะขอเตือนน้องๆ และรุ่นน้องที่ธรรมศาสตร์ หรือใครก็ตามที่คิดจะตัดแว่น หรือแม้กรทั่งจะวื้อคอนแทคเลนส์ ระวังนะคะ ร้านแว่นคูหาเดียว ตกแต่งในโทนชมพุ ไฟสีส้ม อยู่ใกล้ๆ Swensen's ดิฉันขอเตือน

    และหากใครพอจะใจดีช่วย copy paste ไป web board หรือจะ forward mail ไปให้เพื่อนๆคนอื่นจะขอบคุณมาก ร้านชุ่ยๆอย่างนี้จะได้อยู่ไม่ได้

    จากคุณ : Cornelly - [ 30 ก.ค. 47 09:01:03 A:203.118.120.171 X: ]

 
 



กระทู้ยอดนิยม